วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

ขายที่ดินเปล่า ติดถนน สามด้าน เนื้อที่ 289 ตรว. พร้อมอาคาร 4 ชั้น นาคนิวาส 48




ขายที่ดินเปล่า นาคนิวาส 48 เนื้อที่ 289 ตรว. พร้อมอาคาร 4 ชั้น รูปที่ดินสวย เกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ติดกับที่ดินแปลงอื่น ด้านหน้า ซ้าย และขวา ติดถนนซอย 3 ด้าน 

การคมนาคม เข้า ออก สะดวก นาคนิวาส ลาดพร้าว โชคชัยสี่ เลียบทางด่วน รามอินทรา อาจณรงค์ เกษตร นวมินทร์ สุคนธสวัสดิ์ โยธินพัฒนา ใกล้ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ โลตัส CDC คริสตัล พาร์ค ราคาเสนอขาย 38.0 ล้านบาท สนใจสอบถาม 081 869 0878 Email : antonioattorney@gmail.com  ยุทธนา ครับ  


วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด มันช่างทรมานเหลือเกิน


จริงๆ ถ้าคุณเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด ของธนาคารต่างๆ แล้วคุณเครียดนี่ ผมถือว่า อย่างน้อย คุณก็เป็นคนดี และมีความรับผิดชอบนะครับ เพราะหนี้เหล่านี้ คุณไม่มีหลักประกันอะไรไปค้ำกับเขา คุณได้เปรียบเจ้าหนี้ มากมายครับ

วันนี้ผมจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ในการสลัดชีวิตบัดซบที่คุณทำมันให้เป็นแบบนี้เอง ให้หลุดจากภาระหนี้ อันแสนเจ็บปวดทรมานเหล่านี้ครับ เราสามารถแบ่งประเภทของลูกหนี้ ออกเป็น สองประเภท นะครับ คือ 
1. ทิ้งเลย ชีวิตนี้ หลบลี้หนีภัย อนาคตในการกู้เงินธนาคารไม่มีอีกแล้ว ติดแบล็คลิส ติดเครดิตบูโร กันยาวนานแสนนานเลยครับ 
2. ยังทำงาน หรือมีรายได้ พอเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัวอยู่ได้ 

แต่ทั้งสองประเภทนี้ ผมมีข้อห้ามเด็ดขาดนะครับ คือ ห้าม กู้ยืมเงินนอกระบบ ร้อยละ 5 ร้อยละ 10 20 ต่อเดือน มาจ่ายหนี้ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ร้อยละ 2-3 ต่อเดือน ถ้าคุณทำแบบนั้น บอกเลยคุณจะโง่มากครับ หนี้บัตรคุณไม่จ่าย บัตรก็แค่ โทรมาทวงหนี้ ส่งจดหมายมาทวง แต่ไอ้พวกหนี้นอกระบบหนี้ มันอาจจะเอาถึงชีวิต และครอบครัวคุณได้นะครับ อย่าเด็ดขาด

วิธีแก้ มี 2 แนวทาง

1. ยืมเงินญาติพี่น้อง มาก้อนเดียว แล้วปิดหนี้ให้หมด แล้วก็ตกลงกับเขาว่าจะจ่ายคืนเขากี่เดือนกี่ปี และให้ดอกเบี้ยเขายังไง ข้อนี้ง่าย แต่คงมีคนทำได้ยากครับ ขนาดเมื่อหลายปีก่อนมีสองสามธนาคาร เช่น อิสลามแบงก์ ไทยเครดิต หรือ ออมสิน ปล่อยโปรแกรมกู้เงินไปปิดหนี้บัตรเครดิต  ตอนนี้ ทั้งสามธนาคาร อ้วกครับ หนี้เสียในโปรแกรมนี้ เพียบครับ คือ เขากู้แล้ว ก็ไม่เอาไปปิดหนี้ สรุปคือ มีหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกครับ เรียบว่า Double Finance

2. วิธีที่สอง วิธีนี้ คนที่มาปรึกษาผม แล้ว ทำตาม ทุกวันนี้ หมดหนี้หมดสินแล้วครับ หน้าตาสดชื่นเบิกบานแจ่มใส กันทุกคนครับ เป็นยังงี้ครับ คือ ในการที่คุณสามารถสมัครบัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด ได้หลายใบ ถือว่า คุณมีรายได้เป็นมนุษย์เงินเดือนเป็นส่วนใหญ่ และบัตรเหล่านี้จะอนุมัติวงเงินประมาณ 2-3 เท่าของรายได้ ถูกไหมครับ และทุกวันนี้ คุณต้องหมุนเงิน เอาเงินเดือนจ่ายบัตรนี้ แล้วก็กดเงินสดออกมา จ่ายบัตรนั้น และก็มาจ่ายบัตรอื่นๆ ต่อไป เรื่อย ทุกเดือนจ่ายแต่ดอกเบี้ยเท่านั้น หมุนกันไป ไม่มีวันหมดสิ้น พอเริ่มตึง ก็กู้บัตรกดเงินสดมาโป๊ะอีก เชื่อผมเถอะ ความหวังที่คุณมองโลกแบบหนูน้อยหมวกแดงว่า จะเอาเงินโบนัส เงินถูกหวยมาโป๊ะ บอกเลยฝันไปเถอะ ถ้าคุณอยู่ในวังวนนี้ ผมบอกได้เลยว่าอีกไม่นาน คุณก็เน่า และหนี้ก็จะเริ่มเป็นหนี้เสีย และติดเครดิตบูโรอยู่ดี ในที่สุด 

ผมแนะนำแบบนี้นะครับ เลิกจ่ายบัตรทุกบัตรเลยครับ ยอมเป็นหนี้เสียไปเลย เดี๋ยววิธีแก้การติดเครดิตบูโร จะพูดในท้ายๆ บทความนะครับ เลิกจ่ายบัตรครับ แล้วมาคำนวณว่า ที่ผ่านมากับการหมุนเวียนจ่ายบิล กดเงินสดออกมา จ่ายบิล วนเวียนอยู่แบบนี้ คุณมีเหลือกินข้าว ใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไร เอาแบบใช้ชีวิตให้ประหยัดนะครับ อย่าลืมคุณมีหนี้อยู่นะ สมมติละกัน คุณมี เงินเดือน 20,000 บาท ใช้จ่ายแบบประหยัด เดือนละ 14,000 บาท เหลือ เดือนละ 6,000 บาท เอาเงินตรงนี้ไปเก็บไว้เลยครับ ห้ามเอามาใช้เด็ดขาด เด็ดขาดนะครับ ผมขอย้ำ เอาละทีนี้ พอคุณเริ่มปฏิบัตรการไม่จ่ายหนี้ จะมาทดสอบว่าคุณเจ๋งแค่ไหนกัน คือหลังจากนี้ ก็จะเริ่มมีพวกบัตรเครดิตโทรมาตามหนี้คุณ ที่มือถือ ที่บ้าน ที่ทำงาน ผมแนะนำนะครับ รับมันทุกสาย อย่าไปกลัว ต้องชนมันครับ แล้วคุณจะแกร่งขึ้นมาเองครับ แล้วตอบไปว่า ไม่มีครับ พี่หมดปัญญาจ่ายแล้วครับ  และมันก็จะเร่งเร้าให้คุณสัญญาว่าจะจ่ายเมื่อนั้นเมื่อนี้ คุณไม่ต้องไปสัญญานะครับ พูดตามนี้ครับ ตามที่ผมบอก " ผมไม่มีครับ และผมไม่รู้ว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่ ยังไง พี่ไม่หนีไปไหนหรอกครับ ยังไงอีกสักสองสามเดือน น้องโทรมาหาพี่ใหม่นะครับ พี่จะพยายามหามาใช้นะครับ ตอนนี้พี่มีหนี้เยอะมากจ่ายไม่ไหวแล้ว " พูดเสร็จ ก็วางหูครับ จบ ห้ามสัญญาว่าจะจ่ายเมื่อนไหร่ มิฉะนั้น มันก็จะโทรมาหาคุณอีกเรื่อยๆ 
เอาละอย่าเพิ่งลืมเงิน ที่เก็บไว้ เดือนละ 6,000 บาท ที่เราเก็บไว้นะครับ เวลาผ่านมาได้ 3-4 เดือนแล้ว ตามคำสัญญาที่คุณให้ไว้กับ เจ้าหน้าที่บัตรเครดิตแล้ว และบัตรของคุณทุกใบ ก็คงโดนยกเลิกวงเงินไปหมดแล้วละครับ  ผ่านมา 4 เดือน คุณก็จะมีเงินเก็บ 24,000 บาท ครับ ผมประมาณการว่า จากเงินเดือน 20,000 บาท คุณคงมีบัตรเครดิตวงเงินประมาณ 40,000 -60,000 บาท นะครับ สมมติว่าแต่ละบัตร วงเงิน 40,000 บาท ละกัน คุณก็เก็บเงินไปเรื่อยๆ ครับ เดือนละ 6,000 บาท รอครับ รอเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตโทรมา สมมติมันโทรมาเดือนที่ห้า คุณมีเงินเก็บ 30,000 บาท แล้ว เสนอเลยครับ น้องครับ พี่อยากเคลียร์หนี้แล้ว ตอนนี้พี่มีหนี้เยอะมากเลยครับ ( คุณต้องเก็บใบแจ้งหนี้ไว้ทุกใบนะครับ ) น้องมีเบอร์แฟกซ์ไหมครับ เดี๋ยวพี่จะส่ง fax ใบแจ้งหนี้ไปให้ดู ตอนนี้ กำลังเจรจาปิดหนี้กับเจ้าหนี้อีกใบอยู่ ถ้าน้องตกลง พี่ขอจ่ายน้อง 50% จบไหมครับ ถ้าจบ น้องทำหนังสือยืนยันยอดหนี้มาส่งมาให้พี่นะครับ แล้วพี่จะชำระหนี้ ภายใน ไม่เกิน 7 วัน หลังจากมีหนังสือยืนยันการลดหนี้นะครับ ถ้าไม่จบ พี่จะเอาเงินไปปิดหนี้ บัตรอื่นก่อน ตอนนี้พี่จะโดนบริษัท ไล่ออกแล้วครับ มีแต่คนโทรมาทวงหนี้พี่เกือบทุกวัน จนหัวหน้าเรียกไปด่าแล้ว....  

ปกติ การเจรจาหนี้บัตรเครดิต จะขอลดหนี้ได้ประมาณ 50%-80% ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าแจ๋วแค่ไหน พูดกับพวกนี้ พูดด้วยเสียงที่หนักแน่น เต็มเสียง ไม่ต้องไปกลัวมัน ข่มมันได้ข่มมันไป แต่พูดให้สุภาพนะครับ  เพราะเขาก็ทำหน้าที่เขาครับ.... เริ่มมองเห็นแนวทาง และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังครับ  วิธีนี้ ผมแนะนำมาหลายคน หลายคนที่ทำตาม ตอนนี้สบายไปละครับ เรื่องการติดเครดิตบูโร ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับ ให้มืออาชีพอย่างผมช่วยดูแลครับ หากคุณเคลียร์หนี้สินหมดแล้ว แต่ยังติดเครดิตบูโร ผมช่วยได้ครับ บทความนี้เอาไปเป็นแนวทางดูนะครับ ขอบคุณครับ

ติดต่อสอบถาม Email: antonioattorney@gmail.com   ID Line : @antonio ยุทธนา ครับ   


วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2559

อสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ ในปี 2559


ผมเองไม่ได้ไปเชียงใหม่มา 3 ปี ละครับ ช่วงที่ผมไปครั้งที่แล้ว เชียงใหม่ ฮอทมากครับ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ครับ คอนโดเกลื่อนเมือง บ้านจัดสรรเพียบ ผมได้มีโอกาสขึ้นไปจากการเชิญของเจ้าของโครงการเพื่อขึ้นไปดูและช่วยแนะนำโปรโมต ให้นักลงทุนจากกรุงเทพ ขึ้นไปซื้อ ช่วงเวลานั้น ผมพูดกับตัวเอง มันจะสร้างให้ใครซื้อวะ คนเมืองเชียงใหม่จริงๆ นะ ที่พอมีฐานะ มีไม่มากพอ ที่จะดูดซับ ซัพพลายที่เยอะขนาดนี้หรอกครับ เท่าที่ทราบ ปี 57 มีโครงการเปิดใหม่ในเชียงใหม่กว่า ร้อยโครงการ และแต่ละโครงการเฉลี่ย ร้อยกว่ายูนิต เข้าใจว่า คงจะรีบขออนุญาตก่อสร้าง จัดสรรก่อนผังเมืองใหม่ ของเชียงใหม่ออกมา พอปี 58 นี่โครงการเปิดใหม่ เหลือ หลักสิบกว่าโครงการ หายหดไปเยอะเลยครับ และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ กว่าครึ่งที่เปิดขาย เป็นคอนโดครับ ..แม่เจ้า ขายคอนโด ในเชียงใหม่ เมืองแห่งขุนเขา 

จากประสบการณ์ของผมนะ ถ้าจะดูว่า อสังหาฯ ถึงภาวะฟองสบู่ใกล้แตกหรือยัง ให้ดูว่า เมื่อไรที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เชียงใหม่ บูมเมื่อไร นั่นละ ฟองสบู่มาแล้ว ครับ ... ผมกล่าวไว้เองครับ ผมมีประสบการณ์จากคุณพ่อผมเองละครับ ช่วงนั้นสวนเกษตรที่เชียงใหม่บูม ไปถามรุ่นคุณพ่อคุณแม่ดูครับ ว่า พ่อแม่ใคร โดนไปมั่ง พ่อผมละโดนไปกับเขาด้วย ปั่นกันจนแตกดังโพละ 
ครั้งนี้ ผมเห็นว่าการเปิดตัวใหม่ๆ ของโครงการ แทบจะไม่มีเลย เห็นเปิดตัวแค่สองสามโครงการครับ แต่โครงการที่เปิดขายเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ที่ผมได้มีโอกาสมาเยี่ยมชม ในฐานะตัวแทนขายจากบริษัท Agency วันนี้ขับรถผ่าน สภาพดูไม่จืดครับ ความคืบหน้าของโครงการแทบไม่มี สำนักงานขาย ทรุดโทรมลงไปมากเลยครับ เอาเข้าจริง คนเมืองเชียงใหม่จริงๆ ที่พอมีฐานะ ซื้อบ้านหลังที่สอง หลังที่สามได้จริงๆ ผมว่า มีถึงหนึ่งแสนคนหรือเปล่า ที่มีกำลังซื้อ และสามารถกู้ธนาคารได้จริงๆ ด้วยเหตุผล อย่าลืมนะครับ ระบบธนาคารของประเทศไทย ถ้าคุณไม่ใช่มนุษย์เงินเดือน บอกเลยกู้ผ่านยากโคตรๆ ครับ แล้วคุณคิดว่า คนเชียงใหม่ หรือ คนจังหวัดใกล้เคียง จะมีเกิน 30% ของประชากรไหม ที่มีเงินเดือนประจำกัน ส่วนใหญ่เป็นภาคเกษตร หรือเจ้าของธุรกิจ SME เพราะฉะนั้น โอกาสกู้ธนาคารผ่านยากมากครับ
เชื่อผม นั่นอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่ ฟองสบู่เริ่มแฟบ และอีกเหตุผลหนึ่งครับ ผมว่า คนที่ซื้อส่วนหนึ่งมาจากต่างถิ่น เช่น คนกรุงเทพนี่ละครับ พอขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่ แล้วชอบในบรรยากาศ ผู้คนน่ารัก เลยอยากมีบ้านพักที่นี่ซะเลย เรียกว่าซื้อโดยอารมณ์พาไปล้วนๆ ไม่ได้ซื้อจากความจำเป็นจริงๆ แบบนี้ ถ้าเซลล์ขายบ้านไม่สามารถรักษามู๊ดหรือ อารมณ์ของผู้ซื้อให้ต่อเนื่องละก็ อาจจะเปลี่ยนใจได้ พอกลับถึง กรุงเทพ แล้ว มาเจอบรรยากาศเดิมๆ ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เจอภาวะเศรษฐกิจบีบรัดเข้าไป พาลจะไม่ผ่อนดาวน์เอาดื้อๆ หรือ ทิ้งดาวน์เลยก็มี อารมณ์แบบชั่ววูบนนี้ เขาเรียบว่า อารมร์วูบเดียวที่เซลล์เก่งจะบิวท์ให้ลูกค้าจองได้ แต่ถ้าไม่รักษาอารมณ์นี้ไว้ได้ ก็ทิ้งดาวน์ครับ ... แต่อย่างไรก็ตาม 

ผมก็ชอบเชียงใหม่นะครับ และที่บ้านก็มีที่ดินอยู่แปลงเล็กๆ แปลงหนึ่งด้วย ปลูกบ้านไว้ได้หลังหนึ่งสบายๆ แต่ปัญหาคือ ที่แปลงนี้อยู่ที่ไหน เพราะทางเข้าโครงการ มีแต่ป่ารกทึบ มองไม่เห็นถนนเลยครับ 555 พ่อผมซื้อไว้

วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

กู้ซื้อบ้าน ได้เต็มวงเงิน กู้ได้ 100% ทำได้จริงเหรอ?


ทุกๆ คน เวลาจะซื้อบ้าน แล้วต้องกู้เงิน จากสถาบันการเงิน เกือบทุกคน อยากได้วงเงินกู้สูงๆ ให้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือบางคน กู้เหลือเงินได้ยิ่งดีครับ น้อยคนนักที่จะบอกว่า เอาแค่นี้พอ ไม่ยากเป็นหนี้เยอะ ผมแทบจะไม่เจอ และผมก็จะเจอเกือบทุกวันครับ ที่โทรมาบ้างละ อินบอกซ์มา ไลน์มา อีเมลมา ว่า ต้องการกู้ให้ได้100% หรือ กู้เงินเหลือบ้างละ อันนี้ ผมขอใช้โอกาสนี้ อธิบาย ให้เข้าใจกันดีกว่านะครับ 

หลักเกณฑ์ของธนาคาร ในการให้วงเงินกู้ คือ 
1. บ้าน ทาวน์เฮาส์ คอนโด อันนี้ จะให้วงเงินประมาณ 80 - 100% เงื่อนไขขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
2. ตึกแถว อาคารพาณิชย์ 70-90% เงื่อนไขขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
3. ที่ดินเปล่าให้ 60-70% อันนี้ มีธนาคารเดียวที่ให้กู้ที่ดินเปล่า คือ ธนาคาร กรุงเทพ ครับ

ต่อมา ไอ้ที่ว่า ให้วงเงินกู้ คือ 80-100% คือยังไง ยังงี้ครับ ธนาคารเขาจะ มี สองตัวมาเปรียบเทียบกัน อันไหน ต่ำกว่า ยึดตัวเลขนั้น เช่น ให้กู้ 90%

ตัวอย่าง คุณซื้อบ้านจริง 1.0 ล้านบาท แต่คุณทำสัญญา ซื้อขายไปหลอกธนาคาร ว่า ซื้อขายที่ 1.2 ล้านบาท แล้วธนาคารส่งบริษัทไปประเมิน ประเมินราคาได้ 1.0 ล้านบาท ธนาคาร จะเอา ราคาตามสัญญาซื้อขาย ( ที่คุณทำหลอกธนาคาร ) คือ 1.2 ล้านบาท กับ ราคาประเมินของธนาคาร คือ 1.0 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกัน อันไหน ราคาต่ำกว่า ก็ยึดตัวนั้น คือ ยึดราคาประเมินของธนาคารครับ ที่ 1.0 ล้านบาท ธนาคารให้กู้ 90% คุณก็จะได้วงเงินกู้ไป 900,000 บาท อันนี้เติมเงิน 100,000 บาท

ตัวอย่าง ในทางกลับกัน คุณซื้อบ้านจริง 1.0 ล้านบาท แต่คุณทำสัญญา ซื้อขายไปหลอกธนาคาร ว่า ซื้อขายที่ 1.2 ล้านบาท แล้วธนาคารส่งบริษัทไปประเมิน ประเมินราคาได้ 1.3 ล้านบาท ธนาคาร จะเอา ราคาตามสัญญาซื้อขาย ( ที่คุณทำหลอกธนาคาร ) คือ 1.2 ล้านบาท กับ ราคาประเมินของธนาคาร คือ 1.3 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกัน คืออันนี้ ธนาคารดันประเมินราคาสูงกว่าที่สัญญาซ์้อของคุณที่ทำหลอกไปซะอีก แต่ยังไงก็ตาม ธนาคารจะยึดว่าอันไหน ราคาต่ำกว่า ก็ยึดตัวนั้น คือ ยึดราคาตามสัญญาซื้อขาย ที่ 1.2 ล้านบาท ธนาคารให้กู้ 90% คุณก็จะได้วงเงินกู้ไป 1,080,000 บาท อันนี้ละครับ ที่เรียกว่ากู้เกิน กู้เหลือเงิน  เหลือเงิน 80,000 บาทครับ ....พอจะเข้าใจกันหรือยังครับ

คำว่ากู้ได้ 100% ก็คือ ราคาประเมินทรัพย์ น่าจะสูงกว่า ราคาซื้อขายในท้องตลาดครับ มันถึงจะทำได้ ครับ  หรือ บางท่าน จะซื้อบ้านโครงการบ้านใหม่ ถ้าอยากจะกู้ได้วงเงิน 100% ต้องซื้อกับโครงการของบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นครับ มีอยู่ 5-7 บริษัท ลองเลือกเองละกันว่าจะซื้อกับใคร 

อย่างลูกค้าผมล่าสุด ซื้อบ้านราคา 7.5 ล้านบาท แต่ โครงการทำหนังสือ สัญญาราคาซื้อขาย ที่ 8.2 ล้านบาท และโครงการแนบใบส่วนลดให้ 700,000 บาท ก็คือ ซื้อขายจริงที่ 7.2 ล้านบาท แต่เราไม่ได้เอาใบส่วนลดไปยื่นกู้ ก็คือ เอาเฉพาะสัญญาราคาซื้อขายที่ทำกับโครงการ ไปยื่นที่ราคา 8.2 ล้านบาท ครับ และสำหรับธนาคาร ถ้ามีการซื้อผ่านจากโครงการใหญ่ๆ บิ๊กเนม แล้ว เขาจะประเมินราคาให้ตามสัญญาซื้อขายที่โครงการทำให้เลยครับ ลูกค้าของผมรายนี้ แกรายได้เยอะ แต่มีการติดประวัติเครดิตบูโรมาก่อน จึงกู้ไม่ผ่าน ผมเลยได้มีโอกาสรับใช้ ก็จบไปเรียบร้อยครับ โอนไปแล้ว ลูกค้ากู้ได้ เต็มวงเงิน 8.2 ล้านบาท เหลือเงินส่วนต่าง 700,000 บาท เต็มๆ ครับ

อย่างนี้พอเข้าใจ คำว่ากู้ได้100% หรือยังครับ ไม่ใช่ ที่ผมเจอบ่อยมาก ลูกค้าหาบ้านมา บอกรายละเอียดบ้านมา ผมบอก พี่จับบ้านตัวนี้มา 3.0 ล้าน จะกู้เต็มวงเงิน 100% ยากครับ แถวนั้น เขาขายกัน 2.5-3.0 ล้านบาท ราคาประเมินไม่ถึงแน่นอน หากประเมินได้สูงสุด 3.0 ล้านบาท และเป็นบ้านมือสอง สมมติธนาคารให้กู้ 90% คุณก็ได้วงเงินแค่ 2.7 ล้านบาทเองครับ การจะกู้ได้วงเงินสูงๆ หรือ 100% นั้น คุณต้องจับบ้านมาในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดอย่างน้อย 10-20% ครับ ถึงจะทำได้ อันนี้พอเข้าใจกันแล้วนะครับ

และสำหรับท่านที่ติดปัญหา กู้ซ์้อบ้านไม่ผ่าน ติดปัญหาเครดิตบูโร อยากให้ผมช่วยดูแล และดำเนินการจัดการยื่นกู้ให้ ยินดีเลยครับ ติดต่อ email: antonioattorney@gmail.com หรือ Line ID: @antonio ยุทธนาครับ ยินดีรับใช้ 


วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

Passive Income ให้เงินทำงาน โคตรสบาย ทำได้จริงเหรอ?


     วันหยุดยาวปีใหม่นี้ 2559 ผม ก็ถือโอกาสพักผ่อนอยู่บ้าน แถบไม่ได้ออกไปไหน อยู่บ้านซื้อของมาทำกิน ประหยัดดีครับ ก็เลยมีโอกาส ได้นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ เปิดเฟสบุค แซวเพื่อนๆ เป็นที่สนุกสนาน แล้วก็ได้มีโอกาสเปิด youtube มีอะไรน่าสนใจดูบ้าง บังเอิญ youtube แนะนำให้ผมดูบางคลิป เกี่ยวกับ พวกโค้ชโน่นโค้ชนี่ มีเงินใช้ได้ โดยไม่ต้องทำงาน รวยโคตรๆ อะไรประมาณนี้ เอ้าก็ลองกลั้นใจ ฟังดู เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เปิดไปหลายสิบคลิป จริงๆ แล้ว ผมทนฟังไม่ได้นานเท่าไร ขนลุก บางคนก็โอเคนะ ถือว่ายังพอมีจรรยาบรรณอยู่บ้าง บางคนนี่เข้าขั้น หลอกคนที่ไม่รู้ ให้นั่งฟังอ้าปากวอ อูยเก่งจัง
     เอาเป็นว่า เปิดศักราชปีใหม่ ผมเองก็อยากเป็นคนมองโลกในแง่ดีบ้าง ไม่ใช่ กัดชาวบ้านไปทั่ว ผมก็อยากจะมาสรุปให้เพื่อนๆ ฟัง บางเรื่องที่ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ในกรณีที่ หาซื้อบ้าน คอนโด ให้คนเช่า โดยกู้เงินธนาคารให้มากที่สุด แล้วใช้เงินค่าเช่ามาผ่อนธนาคาร แถวเหลือเงินอีกต่างหาก มีอะไรที่ผมคิดว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง ลองมาดูกันทีละข้อครับ

      1. ต้องหาทรัพย์สิน คอนโด บ้าน ที่จะมาทำกรรมวิธีที่ว่า ให้ได้ก่อน ถามว่า จะหาได้ไหม หาได้ครับ ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ราคา ที่ต่ำจนกระทั่งคุณสามารถ กู้ธนาคาร แล้วมาปล่อยเช่า ให้ได้เงินมากกว่าการผ่อนค่างวดรายเดือนนั้น ไม่ง่าย การเป็นหนี้ธนาคาร 1.0 ล้านบาท ต้องผ่อนเดือนละ 7,000 บาท อันนี้เป็นมาตรฐานทั่วไปนะครับ ลองดู ผมจะยกตัวอย่าง บ้านราคา 1 ล้านบาท หรือ เอาเป็นว่า กู้ 100% นะครับ จะต้องผ่อนธนาคาร เดือนละ 7,000 บาท ผมอยากให้คุณหาบ้าน หรือ ทาวน์เฮาส์ ก็ได้ ราคา 1.0 ล้านบาท ในกรุงเทพให้ผมหน่อย ..... เงียบ หาได้ไหมครับ เอ้า เอาใหม่ งั้นหาบ้าน ทาวน์เฮาส์ละกันครับ ราคา 1.5 ล้านบาท เท่ากับต้องผ่อนธนาคาร ประมาณเดือนละ 10,500 บาท ครับ หาบ้านครับ ทาวน์เฮาส์ด้วยครับ หาเลยครับ เอ้า หาเลยซิ คิดซิ ทำเลที่ไหนจะมี ราคา 1.5 ล้านบาท หาได้ยังครับ เอาสมมติว่าหาได้แล้ว คุณคิดว่า ไอ้บ้านทาวน์เฮาส์ที่ว่า ราคา 1.5 ล้านบาท สภาพแวดล้อมของบ้านที่ซื้อนี่ มันจะเป็นยังไง มันจะมีคนเช่าไหมครับ 10,500 บาท ถามย้ำนะครับ เดือนละ 10,500 บาท หาได้ไหมครับคนเช่า เอ้า สมมติว่าเก่ง หาได้ครับ 10,500 บาท แล้วคุณเหลือเงินยังไงอะครับ สรุปจะเหลือเงินตอนขายออก เพราะคุณเอาค่าเช่ามาผ่อน ระยะยาว หนี้ลด มูลค่าบ้านเพิ่ม ....ครับ ผมจะแนะนำลูกค้าผม แค่นี้ ไม่ได้สร้างวิมานอะไรมากมายครับ 
      2. หัวข้อเกี่ยวเนื่อง ที่ว่า คุณต้องซื้อบ้านให้ถูกกว่าราคาตลาดมากๆ เช่น แถวนั้นเขาตั้งขายกัน 2.0 ล้านบาท เราต้องซื้อให้ได้ถูกที่สุด เพื่อเข้ามาตามสูตร จากประสบการณ์ของผมนะ มีสองเหตุผล ที่ คุณจะสามารถซื้อได้ถูกกว่าราคาตลาดมากๆ จริงๆ คือ หนึ่ง.. บ้านผีสิง คือบ้านเน่าสนิท ทรุดโทรม คุณซื้อมาถูกจริงครับ แต่อย่าลืม ต้นทุนในการตกแต่งซ่อมแซมด้วยนะครับ บานแน่ๆ สอง...เจ้าของร้อนเงิน หรือเหตุผลที่จะต้องรีบขาย อันนี้ ผมเคยซื้อคอนโด มาด้วยการซื้อต่ำว่าราคาตลาดถึง 20% เหตุผลคือ ผู้หญิงสองคน เป็นแฟนกัน ทะเลาะ และเลิกกัน เลยจะแบ่งสมบัติ เหตุผลร้อนเงินมีได้มากมาย อันนี้แล้วแต่คุณจะเจอครับ แต่โดยสรุป การหาซื้อบ้านได้ราคาที่ถูกมากๆ มีไหม มีครับ แต่ส่วนใหญ่ บ้านเหล่านี้ คุณต้อง รีโนเวททั้งนั้น ก็คือ ต้องมีต้นทุนเพิ่ม อย่าลืมไปบวกเข้าในราคาตัวบ้านด้วย
       ถ้าคุณต้องรีโนเวท มี 2 ประเด็นครับ รีโนเวทก่อนโอนบ้าน ด้วยเงินคุณเอง โดยการตกลงกับเจ้าของบ้านให้ดีซะก่อนนะครับ ไม่ใช่ รีโนเวทเสร็จไม่ขายให้เรา สัญญาต้องร่างให้รัดกุม อันนี้ต้องฟ้องร้องกันยาว พอทำเสร็จแล้วค่อยกู้ อันนี้ได้วงเงินสูงแน่นอน จากมูลค่าทรัพย์ที่มากขึ้น ......หรือ สอง รีโนเวท หลังจากกู้แล้ว และฝันว่า จะขอกู้เงินจากธนาคาร มารีโนเวท อันนี้บอกเลย ฝันร้ายแน่นอน ธนาคารไม่ให้ครับ
      3. โค้ช หรือ ลูกศิษย์บางคน มีบ้าน คอนโด ให้เช่า 5-7 หลัง โอ้โห แต่ละคนเก่งๆ กันทั้งนั้นเลย แต่จากประสบการณ์ผมนะ ตอนนี้ทำไม่ได้แล้วครับ  ผมก็ไม่แน่ใจว่า แต่ละท่านที่ทำได้ไปกู้ธนาคารยุคไหนมา เหมือนกัน เพราะ เพราะ อะไรรู้ไหมครับ 
       3.1 ธนาคาร จะถาม บ้านที่อยู่ ทุกวันนี้ พักอยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน แล้วทำไม พี่ถึงมาซื้อบ้านที่นี่ละครับ อันนี้ ตอบให้ได้นะครับ
        3.2 เอ๊ะ พี่ พี่มีผ่อนบ้านอยู่แล้ว ทำไม จะมาซื้ออีกละครับ อ๋อ ซื้อไว้ปล่อยเช่า อันนี้ โดนรีเจคแน่นอน         3.3 ไอ้ที่ กู้ๆ กันเยอะ ทำได้ไหม ทำได้ครับ ทำได้ด้วย สองวิธี 
           3.3.1 กู้พร้อมกันหลายๆ แบงก์ และบ้านหลายๆหลัง ในเวลาเดียวกัน เช่น บ้านลาดพร้าว กู้กรุงเทพ บ้านบางกะปิ กู้ไทยพาณิชย์ บ้านรามคำแหงกู็ กรุงไทย ยื่นไปพร้อมๆ กัน วัดดวง ส่งไป 5 อนุมัติมา 3 คุณก็เป็นเจ้าของบ้านพร้อมกันทันที การกู้แบบนี้เสี่ยงมากครับ คุณจะตกเป็นเหยื่อของ นายหน้าที่เอาบ้าน คอนโด ขายคุณ แล้วบอกว่า ดีแน่นอน คุ้ม เชื่อผม คุณไม่มีผู้เช่าสักสามเดือนคุณก็ตายแล้ว
            3.3.2 กู้ไม่ได้เยอะ ไม่ได้หลายหลัง ด้วยข้อจำกัดต่างๆ เงินเดือนเต็มแม๊กซ์แล้ว เข้าเกณฑ์ บ้านหลังที่สอง หลังที่สาม ที่ธนาคารจะให้กู้ได้ หรือกู้ได้ แต่ให้สัดส่วนวงเงินแค่ 70-80% ทำไงดีวะทีนี้ อ๋อ... เอาเมีย น้องเมีย น้องคุณ พี่เมีย มากู้ให้ เอ้า สมมติเขาทำให้ เชื่อผม ยาวๆ ต่อไปจะมีเรื่องทะเลาะกันแน่นอน ครับ ฟันธง
      
        เวลาเขาบรรยาย เขาเอาตัวเลขซ่อนไว้ ผมจะให้ข้อคิดนะครับ บางคนบอก ผมซื้อบ้านได้ในราคา 1.5 ล้านบาท ทั้งๆ ที่แถวนั้นขายกัน สองล้านกว่า โอ้ เก่งจัง ผมถามว่า ถ้าคุณเป็นเจ้าของบ้านที่ขายให้ในราคานี้นะ คุณโง่ หรือ บ้า หรือว่า อ๋อ ขายๆ มันไปเถอะ บ้านผมต้องซ่อมอีก 500,000  กว่าบาท ฮาๆๆๆ ผมว่าเหตุผลนี้มากกว่านะครับ โค้ชบางคน ลืม หรือตั้งใจลืมในการบรรยาย ว่า จะต้องเอาต้นทุนการตกแต่ง ต่อเติม รีโนเวท มารวมด้วยหรือป่าว ก่อนคิด IRR ให้ลูกศิษย์ฟังนะครับ คร่าวๆ ที่พอจะเขียนออกในวันนี้ ก็มีเท่านี้ครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นคนมองโลกในแง่หลาย หรือคิดลบ ไม่คิดบวก โดนด่าอีก

        ยังไงก็ตาม การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ นะดีครับ ดีมากๆ ด้วย แต่อย่าไปบ้าบอ เอาเงินคนอื่นซื้อไป ปล่อยเช่า เหลือเงิน อุ้ย สบายจะตายชีวิตฉัน ผมจะบอกให้ ถ้าคุณเป็นนักคณิตศาสตร์การเงินจริงๆ นะครับ คุณเคยลองคำนวณ การเอาชนะเจ้ามือหวยใต้ดินไหมครับ ผมเคยนั่งคำนวณดู เล่นยังไงก็ไม่ชนะ เชื่อผม ระบบที่เหนือกว่า ของผู้ควบคุมตลาดเขาวางมาดีครับ คิดเป็นเรื่องการลงทุนดีกว่า อย่าไปบ้าบออะไรมากมาย เสียเงินเสียทองไปอบรบเลยครับ อยากรู้อะไร ถามผมมานี่ ถ้าอารมณ์ดีจะตอบให้ครับ ฮา ฮา ล้อเล่นครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอประชาสัมพันธ์ตัวเอง หน่อยครับ ผมเป็นนายหน้า ตัวแทนขาย บ้านทาวน์เฮาส์ คอนโด หรือ ไอ้บ้านประเภทที่คุณต้องการนะ ผมก็พอมี แต่ผมจะไม่โฆษณาเกินจริงหรอกครับ หรือ ใครมีปัญหา เรื่องการกู้เงิน ขอสินเชื่อธนาคาร ติดขัดปัญหาอะไร คุยกันครับ เผื่อช่วยได้ ติดต่อผม Email : antonioattorney@gmail.com  Line ID : @antonio หวังว่า บทความนี้ของผมจะช่วยบั่นทอนกำลังใจ ในการสร้าง Passive Income ของคุณไปได้บ้างนะครับ ฮา ๆๆๆ