ในภาวะการณ์ปัจจุบันนี้ โครงการใหม่จาก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อุปทานเกิน 50% เป็นคอนโด และพฤติกรรมผู้บริโภค ก็เอนเอียงไปตามนั้นจริงๆ ครับ แต่บางโครงการที่บอกขายหมดแล้ว ยอดจองหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่พอตอนโครงการเสร็จเริ่มทยอยโอน ผมเห็นเหลือห้อง resale เพียบ เนื่องจากอะไรไม่ทราบ อาจจะคนจองกู้ธนาคารไม่ผ่าน หรือ ปัจจัยต่างๆ นานา ครับ
ถ้าจะให้ผมแนะนำ ในฐานะที่ผมเป็นโบรกเกอร์คนหนึ่ง ถ้าผมจะซื้อคอนโดซักห้อง ผมจะซื้อคอนโดมือสองครับ เพราะ 1) โครงการสร้างเสร็จแล้ว 2) ได้เห็นห้องจริง สิ่งแวดล้อมจริง ห้องร้อนไหม ที่จอดรถพอไหม สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ดีพอไหม สังคมแวดล้อมจริงๆ เป็นอย่างไร เราได้เห็นของจริงหมด จริงๆ แล้วไม่ต้องกลัวราคามันจะไปไกลหรอกครับ ถ้าเราชอบโครงการไหนนะครับ ก็เฝ้าหน้าคอมนี่ละไปเรื่อยๆ คอยเสิร์ชเนตว่ามีคนมาขายหรือยัง เราเฝ้าไปเรื่อยๆ จะรู้เองละครับว่า เราควรซื้อคอนโดของโครงการนั้นที่ราคาเท่าไร ไม่ต้องรีบหรอก
ความเห็นผมนะ คอนโดโครงการเก่า ที่อายุซะ 10-15 ปี ผมชอบนะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม แต่ต้องเป็นห้องที่ไม่ใหญ่ไปนักนะครับ สัก 50 - 100 ตรม. กำลังดีครับ ซื้อมาแล้วไม่ติดมือครับ ขายไม่ยาก วัสดุก่อสร้าง วัสดุภายในก็ใช้ของดีกว่าสมัยนี้ครับ ราคาก็ไม่เวอร์ด้วย คอนโดเก่าถิ่นผู้ดี อย่างสุขุมวิท หรือ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 300- 500 ตรม. นี่ ไม่เอานะครับ ห้องใหญ่เวอร์ ขายยากครับ ใครจะไปซื้อ ติดมือยาวชั่วลูกชั่วหลานแน่ๆ
หรือในแฟชั่นปัจจุบันนี้ โครงการใหม่ เสนอพื้นที่ 25-28 ตรม. ขายกันตั้งแต่ ล้านต้นๆ ไปถึง สามล้าน แล้วแต่ทำเล ขอเตือนนะครับ อย่าซื้อ มันอยู่ไม่ได้นะครับ โครตๆ อึดอัดเลยละ เชื่อผม ซื้อมาขายไม่ง่ายหรอกครับ อยู่ไม่ได้หรอก มีมาฝากขายกับผมเยอะ บอกไม่ไหวแล้ว อยู่แล้วอึดอัด เมืองไทย ยังไม่ได้ขาดแคลนที่ดินเหมือนฮ่องกง สิงคโปร์ ขนาดนั้น ทำไมต้องลดไซส์ขนาดเชียวเหรอ อย่าไปซื้อครับ เชื่อผม
ก็ไม่มีอะไรมากครับ ฝากข้อคิดเห็นเรื่องคอนโดกันไว้เผื่อไว้พิจารณาซื้อคอนโดกันครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น