วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ปีหน้า ปลดแอก นโยบายรถคันแรก กู้ซื้อบ้านผ่านกันซะที


ตั้งแต่ปลายปี 54 ที่นโยบายรถคันแรกคลอดออกมา วงการรถยนต์ปั่นป่วนกันไปหมด ลามไปภาคเศรษฐกิจอื่นๆ กำลังซื้อหดหาย รวมไปถึง ภาคธุรกิจที่ผมคลุกคลีอยู่ด้วย คือ วงการอสังหาริมทรัพย์ และภาคการเงินการธนาคาร 

ลูกค้าที่ติดต่อเข้ามาเพื่อปรึกษาผม ปัญหาส่วนใหญ่ในการยื่นกู้ซื้อบ้าน คือ ติดหนี้ ติดภาระผ่อนรถคันแรก ทั้งที่ซื้อเองจริงบ้าง ญาติพี่น้องยืมชื่อไปใช้บ้าง ทำให้ติดปัญหาไปด้วย

ปัญหาที่ติดก็คือ ภาระหนี้สูงเกินกว่าจะสามารถสร้างหนี้อื่นได้อีก การยื่นกู้ซื้อบ้าน จึงโดนรีเจค หรือ ปฏิเสธสินเชื่อในอัตราสูงมากเป็นประวัติการ เพราะในการยื่นกู้ซื้อบ้าน คุณไม่สามารถสร้างภาระหนี้ได้เกิน 50 %- 60 % ของรายได้ ต่อเดือน บางคน เงินเดือน 25,000 บาท จริงๆ ก็สามารถกู้ซื้อบ้าน ทาวน์เฮาส์หลังละ 1.5 ล้านบาท ได้แบบสบายๆ แต่ดัน ไปผ่อนรถคันแรก เดือนละแปดพันเก้าพันบาท อันนี้เลยจบครับ กู้อะไรไม่ได้อีกแล้ว  

แต่ในข้อดี ก็มี ข้อไม่ดี และข้อไม่ดีของนโยบาย ก็มีข้อดี ผมจะพูดในแง่ดีก่อนนะครับ หากใครที่เริ่มผ่อนรถคันแรกมาแล้วจนเกือบครบห้าปี และจะหมดหนี้แล้ว ถ้าคุณมีการผ่อนที่ดี ผ่อนตรงตามงวด เมื่อคุณผ่อนรถหมด อันนี้ คุณจะได้คะแนนการคำนวณในระบบ scoring ของธนาคารที่ดีมาก หากคุณไปยื่นกู้ซื้อบ้านหลังจากผ่อนรถหมด อันนี้ผ่านแน่นอน

แต่ในข้อไม่ดี ก็ คือ หาก ใครผ่อนไม่ตรง ผ่อนไม่ไหว ติดแบล็คลิส ติดเครดิตบูโร อันนี้ บอกเลยครับ ยาว ยาว เลย แต่ถ้า ปัญหาดังกล่าว ถึงแม้จะผ่อนตรงบ้าง ผ่อนช้าบ้าง หรือบางท่านโดนยึดรถเรียบร้อย แต่หาก ท่านสามารถปิด เคลียร์หนี้ หมดแล้ว ปัญหาคือ ท่านอาจจะกู้เองไม่ผ่าน อันนี้ผมช่วยได้ครับ คุยกัน ครับ แอดไลน์มาคุยกันครับ Line ID : @antonio ใส่ @ด้วยนะครับ ผมพร้อมให้คำปรึกษาทุกท่านอยู่ครับ ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หลักการง่ายๆ ทำได้ กู้เงินธนาคาร กู้ซื้อบ้าน ผ่านกันทุกคน


ผมไม่ได้เขียนบทความมานาน เนื่องจากช่วงหลังไม่ค่อยมีเวลามากนักครับ งานเข้าเยอะมาก เลยไม่มีเวลาเรียบเรียบข้อมูล และอัพเดท นโยบายใหม่ๆ ของแต่ละธนาคารครับ วันนี้พยายามจะสรุปข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้เอาไว้เป็นหลักการ เพื่อเตรียมตัวยื่นกู้ซื้อบ้านกันครับ หลักการข้อแรก ครับ

1. ให้สำรวจตัวเองก่อนครับ ว่ารายได้ของเรา สามารถกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้สูงสุดวงเงินเท่าไรครับ ที่ธนาคารเขาจะอนุมัติให้เราได้ ง่ายๆ ครับ รายได้ หักภาระหนี้ แล้วเหลือเท่าไร คูณด้วย 60 ครับ นั่นละครับ คุณจะได้วงเงินสูงสุด ที่ธนาคารจะอนุมัติให้ครับ ย้ำนะครับ วงเงินสูงสุด คุณอาจจะไม่ได้สูงสุดตามนี้ก็ได้นะครับ แต่ไอ้ที่แน่นอนคือ คุณไม่สามารถกู้ได้สูงเกินนี้แน่นอน แต่สำหรับบางคนที่มีภาระหนี้ เกิน 40% ของรายได้เช่น คุณมีรายได้ 10,000 บาท มีภาระหนี้ ผ่อนอะไรสักอย่างเกิน 4,000 บาท อันนี้คุณจะกู้ไม่ได้แล้วครับ เพราะมีภาระหนี้เดิมสูงถึง 40% ของรายได้แล้วครับ จะกู้ได้ ต้องลดภาระหนี้ลงครับ ครับข้อแรกอันนี้พอเข้าใจกันนะครับ สำหรับข้อแรกนี้ ถ้าใครคุณสมบัติไม่ถึง ไม่ต้องอ่านข้ออื่นเลยครับ จบข่าว

2. ใครที่ในรอบ 6 เดือน ก่อนที่จะยื่นกู้ซื้อบ้าน คุณเคยไปยื่น สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรกดเงินสด หรือ ที่เรียกว่าสินเชื่อเพอซัลนอลโลน ( Personal Loan ) เพราะเวลาคุณไปยื่นสินเชื่อประเภทนี้ ธนาคารที่คุณไปยื่นขอสินเชื่อ เขาก็จะไปขอดูประวัติการผ่อนชำระ หรือประวัติเครดิตของคุณกับ เครดิตบูโร ใช่ไหมครับ ต่อมา คุณจะยื่นกู้ซื้อบ้าน ธนาคารที่คุณไปยื่นกู้ซื้อบ้าน เขาก็เข้าไปเช็คประวัติบูโรคุณเหมือนกัน เขาก็จะเห็นว่า มีธนาคารอะไร เข้ามาขอดูประวัติคุณไปบ้าง เมื่อไร นั่นละครับ หากมีการขอดูประวัติจากธนาคารอื่นๆ มากๆ หรือ คุณเพิ่งเปิดบัตรใหม่ ก่อน มายื่นกู้บ้าน ภายใน 6 เดือน เกิน สามบัตร ธนาคารปฏิเสธทันที เพราะ เขาไม่รู้ว่า คุณไม่มีเงินดาวน์บ้าน หรือ ยังไง ถึงต้องไปกู้เงินจำพวกนี้ไว้ก่อนรึเปล่า หรือ สอง ธนาคารมองว่า คุณไม่มีวินัย ในด้านการเงินเพียงพอ ไม่มีการเตรียมตัวที่ดี ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านครับ ฉะนั้น ถ้าคิดจะกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมตัว อย่างน้อย 6 เดือนครับ อย่าไปกู้อะไรก่อนกู้ซื้อบ้านครับ กู้บ้านได้แล้ว ค่อยว่ากัน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน น่าจะดีกว่านะครับ

3. ต่อเนื่องจากข้อ 2. ก็คือเรื่องหนี้ครับ ถ้าคุณไม่มีเงินเก็บ และก็มีแต่หนี้ ถ้าคุณมีครบทั้งสองประการ ก็ไม่ต้องไปยื่นกู้ที่ไหนครับ กู้ไม่ผ่านแน่นอน อย่างน้อยถ้าคุณไม่มีเงินเก็บ แต่คุณมีการลดภาระหนี้ลงเรื่อยๆ บัตรเครดิตถ้าใช้ก็เคลียร์ยอดให้หมดเลยครับถ้าทำได้ ค่อยๆ ลดหนี้ลงครับ และห้ามก่อหนี้ใหม่ครับ ลดหนี้ลงและลองคำนวณตามข้อแรก ที่ผมกล่าวนะครับ ว่า รายได้คุณสามารถกู้เงินซื้อบ้านได้ตามวงเงินที่ต้องการหรือยังแค่นี้เองง่ายๆ ครับ

4. เงินออม ข้อนี้ ถ้าคุณไม่มี แต่คุณก็ไม่มีหนี้อีกเช่นกัน อันนี้ยังพอไปได้ แต่ยิ่งถ้าคุณมีเงินออมนะ ชีวิตคุณจะดีขึ้นและง่ายขึ้นนะครับ ถึงแม้คุณจะกู้อะไรไม่ผ่าน แต่ผมว่าถ้าคุณมีเงินออม อย่างน้อย เท่ากับว่า คุณได้สร้างนิสัยการออมเงิน จนติดเป็นนิสัยแล้วละครับ ยินดีด้วยครับ และถามว่าถ้าจะกู้ซื้อบ้าน จะต้องมีเงินออมเท่าไร เอาแบบชัวร์ๆ เลยนะครับ 10% ของราคาบ้านที่คุณต้องการซื้อนะครับ แค่นี้เองครับ

หลักการง่ายๆ ในการที่จะกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ธนาคารอนุมัติแน่นอนครับ หลักการทั้งสี่ข้อของผม ใครมีครบทุกข้อ กู้เองผ่านฉลุย หรือใครที่ติดขัดปัญหาอะไร ติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ครับ Line ID: @antonio หรือ antonioattorney@gmail.com

ทิ้งคำถามไว้ครับ แล้วผมจะตอบให้ทุกรายครับ อาจจะช้าหน่อยครับ คำถามเข้ามาเยอะมากครับ วันนี้สวัสดีครับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ขายที่ดินเปล่า แปลงใหญ่ 7 ไร่ 2 งาน 29 ตรว. ถนน บางนา ตราด กม. 23





ขายที่ดินเปล่า 7-2-29 ไร่ ถนนบางนา ตราด กม.23 บางเสาธง สมุทรปราการ ที่ดินแปลงใหญ่ ถมแล้วกว่าครึ่ง ที่ดินเหมาะสำหรับทำโครงการจัดสรร ที่ดินแปลงสวย หน้ากว้างติดถนน กว่า 300 เมตร ลึกประมาณ 46 เมตร 

ทำเลดี ถนนบางนา ตราด กม. 23 สมุทรปราการ ใกล้ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เอแบค ( ABAC ) ราคาเสนอขาย 85 ล้านบาท สนใจสอบถาม 081 869 0878 


วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

ขายที่ดินเปล่า ติดถนน สามด้าน เนื้อที่ 289 ตรว. พร้อมอาคาร 4 ชั้น นาคนิวาส 48




ขายที่ดินเปล่า นาคนิวาส 48 เนื้อที่ 289 ตรว. พร้อมอาคาร 4 ชั้น รูปที่ดินสวย เกือบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่ติดกับที่ดินแปลงอื่น ด้านหน้า ซ้าย และขวา ติดถนนซอย 3 ด้าน 

การคมนาคม เข้า ออก สะดวก นาคนิวาส ลาดพร้าว โชคชัยสี่ เลียบทางด่วน รามอินทรา อาจณรงค์ เกษตร นวมินทร์ สุคนธสวัสดิ์ โยธินพัฒนา ใกล้ เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ โลตัส CDC คริสตัล พาร์ค ราคาเสนอขาย 38.0 ล้านบาท สนใจสอบถาม 081 869 0878 Email : antonioattorney@gmail.com  ยุทธนา ครับ  


วันอังคารที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2559

เป็นหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด มันช่างทรมานเหลือเกิน


จริงๆ ถ้าคุณเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรกดเงินสด ของธนาคารต่างๆ แล้วคุณเครียดนี่ ผมถือว่า อย่างน้อย คุณก็เป็นคนดี และมีความรับผิดชอบนะครับ เพราะหนี้เหล่านี้ คุณไม่มีหลักประกันอะไรไปค้ำกับเขา คุณได้เปรียบเจ้าหนี้ มากมายครับ

วันนี้ผมจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ในการสลัดชีวิตบัดซบที่คุณทำมันให้เป็นแบบนี้เอง ให้หลุดจากภาระหนี้ อันแสนเจ็บปวดทรมานเหล่านี้ครับ เราสามารถแบ่งประเภทของลูกหนี้ ออกเป็น สองประเภท นะครับ คือ 
1. ทิ้งเลย ชีวิตนี้ หลบลี้หนีภัย อนาคตในการกู้เงินธนาคารไม่มีอีกแล้ว ติดแบล็คลิส ติดเครดิตบูโร กันยาวนานแสนนานเลยครับ 
2. ยังทำงาน หรือมีรายได้ พอเลี้ยงตัว เลี้ยงครอบครัวอยู่ได้ 

แต่ทั้งสองประเภทนี้ ผมมีข้อห้ามเด็ดขาดนะครับ คือ ห้าม กู้ยืมเงินนอกระบบ ร้อยละ 5 ร้อยละ 10 20 ต่อเดือน มาจ่ายหนี้ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ร้อยละ 2-3 ต่อเดือน ถ้าคุณทำแบบนั้น บอกเลยคุณจะโง่มากครับ หนี้บัตรคุณไม่จ่าย บัตรก็แค่ โทรมาทวงหนี้ ส่งจดหมายมาทวง แต่ไอ้พวกหนี้นอกระบบหนี้ มันอาจจะเอาถึงชีวิต และครอบครัวคุณได้นะครับ อย่าเด็ดขาด

วิธีแก้ มี 2 แนวทาง

1. ยืมเงินญาติพี่น้อง มาก้อนเดียว แล้วปิดหนี้ให้หมด แล้วก็ตกลงกับเขาว่าจะจ่ายคืนเขากี่เดือนกี่ปี และให้ดอกเบี้ยเขายังไง ข้อนี้ง่าย แต่คงมีคนทำได้ยากครับ ขนาดเมื่อหลายปีก่อนมีสองสามธนาคาร เช่น อิสลามแบงก์ ไทยเครดิต หรือ ออมสิน ปล่อยโปรแกรมกู้เงินไปปิดหนี้บัตรเครดิต  ตอนนี้ ทั้งสามธนาคาร อ้วกครับ หนี้เสียในโปรแกรมนี้ เพียบครับ คือ เขากู้แล้ว ก็ไม่เอาไปปิดหนี้ สรุปคือ มีหนี้เพิ่มขึ้นมาอีกครับ เรียบว่า Double Finance

2. วิธีที่สอง วิธีนี้ คนที่มาปรึกษาผม แล้ว ทำตาม ทุกวันนี้ หมดหนี้หมดสินแล้วครับ หน้าตาสดชื่นเบิกบานแจ่มใส กันทุกคนครับ เป็นยังงี้ครับ คือ ในการที่คุณสามารถสมัครบัตรเครดิต หรือ บัตรกดเงินสด ได้หลายใบ ถือว่า คุณมีรายได้เป็นมนุษย์เงินเดือนเป็นส่วนใหญ่ และบัตรเหล่านี้จะอนุมัติวงเงินประมาณ 2-3 เท่าของรายได้ ถูกไหมครับ และทุกวันนี้ คุณต้องหมุนเงิน เอาเงินเดือนจ่ายบัตรนี้ แล้วก็กดเงินสดออกมา จ่ายบัตรนั้น และก็มาจ่ายบัตรอื่นๆ ต่อไป เรื่อย ทุกเดือนจ่ายแต่ดอกเบี้ยเท่านั้น หมุนกันไป ไม่มีวันหมดสิ้น พอเริ่มตึง ก็กู้บัตรกดเงินสดมาโป๊ะอีก เชื่อผมเถอะ ความหวังที่คุณมองโลกแบบหนูน้อยหมวกแดงว่า จะเอาเงินโบนัส เงินถูกหวยมาโป๊ะ บอกเลยฝันไปเถอะ ถ้าคุณอยู่ในวังวนนี้ ผมบอกได้เลยว่าอีกไม่นาน คุณก็เน่า และหนี้ก็จะเริ่มเป็นหนี้เสีย และติดเครดิตบูโรอยู่ดี ในที่สุด 

ผมแนะนำแบบนี้นะครับ เลิกจ่ายบัตรทุกบัตรเลยครับ ยอมเป็นหนี้เสียไปเลย เดี๋ยววิธีแก้การติดเครดิตบูโร จะพูดในท้ายๆ บทความนะครับ เลิกจ่ายบัตรครับ แล้วมาคำนวณว่า ที่ผ่านมากับการหมุนเวียนจ่ายบิล กดเงินสดออกมา จ่ายบิล วนเวียนอยู่แบบนี้ คุณมีเหลือกินข้าว ใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไร เอาแบบใช้ชีวิตให้ประหยัดนะครับ อย่าลืมคุณมีหนี้อยู่นะ สมมติละกัน คุณมี เงินเดือน 20,000 บาท ใช้จ่ายแบบประหยัด เดือนละ 14,000 บาท เหลือ เดือนละ 6,000 บาท เอาเงินตรงนี้ไปเก็บไว้เลยครับ ห้ามเอามาใช้เด็ดขาด เด็ดขาดนะครับ ผมขอย้ำ เอาละทีนี้ พอคุณเริ่มปฏิบัตรการไม่จ่ายหนี้ จะมาทดสอบว่าคุณเจ๋งแค่ไหนกัน คือหลังจากนี้ ก็จะเริ่มมีพวกบัตรเครดิตโทรมาตามหนี้คุณ ที่มือถือ ที่บ้าน ที่ทำงาน ผมแนะนำนะครับ รับมันทุกสาย อย่าไปกลัว ต้องชนมันครับ แล้วคุณจะแกร่งขึ้นมาเองครับ แล้วตอบไปว่า ไม่มีครับ พี่หมดปัญญาจ่ายแล้วครับ  และมันก็จะเร่งเร้าให้คุณสัญญาว่าจะจ่ายเมื่อนั้นเมื่อนี้ คุณไม่ต้องไปสัญญานะครับ พูดตามนี้ครับ ตามที่ผมบอก " ผมไม่มีครับ และผมไม่รู้ว่าจะจ่ายได้เมื่อไหร่ ยังไง พี่ไม่หนีไปไหนหรอกครับ ยังไงอีกสักสองสามเดือน น้องโทรมาหาพี่ใหม่นะครับ พี่จะพยายามหามาใช้นะครับ ตอนนี้พี่มีหนี้เยอะมากจ่ายไม่ไหวแล้ว " พูดเสร็จ ก็วางหูครับ จบ ห้ามสัญญาว่าจะจ่ายเมื่อนไหร่ มิฉะนั้น มันก็จะโทรมาหาคุณอีกเรื่อยๆ 
เอาละอย่าเพิ่งลืมเงิน ที่เก็บไว้ เดือนละ 6,000 บาท ที่เราเก็บไว้นะครับ เวลาผ่านมาได้ 3-4 เดือนแล้ว ตามคำสัญญาที่คุณให้ไว้กับ เจ้าหน้าที่บัตรเครดิตแล้ว และบัตรของคุณทุกใบ ก็คงโดนยกเลิกวงเงินไปหมดแล้วละครับ  ผ่านมา 4 เดือน คุณก็จะมีเงินเก็บ 24,000 บาท ครับ ผมประมาณการว่า จากเงินเดือน 20,000 บาท คุณคงมีบัตรเครดิตวงเงินประมาณ 40,000 -60,000 บาท นะครับ สมมติว่าแต่ละบัตร วงเงิน 40,000 บาท ละกัน คุณก็เก็บเงินไปเรื่อยๆ ครับ เดือนละ 6,000 บาท รอครับ รอเจ้าหน้าที่บัตรเครดิตโทรมา สมมติมันโทรมาเดือนที่ห้า คุณมีเงินเก็บ 30,000 บาท แล้ว เสนอเลยครับ น้องครับ พี่อยากเคลียร์หนี้แล้ว ตอนนี้พี่มีหนี้เยอะมากเลยครับ ( คุณต้องเก็บใบแจ้งหนี้ไว้ทุกใบนะครับ ) น้องมีเบอร์แฟกซ์ไหมครับ เดี๋ยวพี่จะส่ง fax ใบแจ้งหนี้ไปให้ดู ตอนนี้ กำลังเจรจาปิดหนี้กับเจ้าหนี้อีกใบอยู่ ถ้าน้องตกลง พี่ขอจ่ายน้อง 50% จบไหมครับ ถ้าจบ น้องทำหนังสือยืนยันยอดหนี้มาส่งมาให้พี่นะครับ แล้วพี่จะชำระหนี้ ภายใน ไม่เกิน 7 วัน หลังจากมีหนังสือยืนยันการลดหนี้นะครับ ถ้าไม่จบ พี่จะเอาเงินไปปิดหนี้ บัตรอื่นก่อน ตอนนี้พี่จะโดนบริษัท ไล่ออกแล้วครับ มีแต่คนโทรมาทวงหนี้พี่เกือบทุกวัน จนหัวหน้าเรียกไปด่าแล้ว....  

ปกติ การเจรจาหนี้บัตรเครดิต จะขอลดหนี้ได้ประมาณ 50%-80% ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าแจ๋วแค่ไหน พูดกับพวกนี้ พูดด้วยเสียงที่หนักแน่น เต็มเสียง ไม่ต้องไปกลัวมัน ข่มมันได้ข่มมันไป แต่พูดให้สุภาพนะครับ  เพราะเขาก็ทำหน้าที่เขาครับ.... เริ่มมองเห็นแนวทาง และแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ยังครับ  วิธีนี้ ผมแนะนำมาหลายคน หลายคนที่ทำตาม ตอนนี้สบายไปละครับ เรื่องการติดเครดิตบูโร ไม่ต้องไปกลัวหรอกครับ ให้มืออาชีพอย่างผมช่วยดูแลครับ หากคุณเคลียร์หนี้สินหมดแล้ว แต่ยังติดเครดิตบูโร ผมช่วยได้ครับ บทความนี้เอาไปเป็นแนวทางดูนะครับ ขอบคุณครับ

ติดต่อสอบถาม Email: antonioattorney@gmail.com   ID Line : @antonio ยุทธนา ครับ   


โพสต์แนะนำ

ที่ปรึกษา เพื่อแนะนำ เทคนิค วิธีการ การ กู้เงิน ขอสินเชื่อ แก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับคนที่มีปัญหา กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ขอสินเชื่อกับ ธนาคารไม่ผ่าน แบงก์ ไม่อนุมัติ หรือ ท่านที่มีปัญหาหนี้เสีย ภาระหนี้สินมากและยัง...

บทความที่น่าสนใจ