แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561

แบงค์ชาติ ผวาหนี้เสีย ลูกหนี้รายใหญ่


ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งกำชับ ให้ธนาคารพาณิชย์ดูแลหนี้สินเชื่อรายใหญ่เป็นพิเศษ เนื่องจากมีสัญญาณบ่งบอกถึงการเริ่มมีหนี้เสียเกิดขึ้นในบางกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม

ทั้งนี้เริ่มมีสินเชื่อรายใหญ่เป็นหนี้ที่จ่ายไม่ตรงตามกำหนด และไปถึงเป็นหนี้เสียในระบบ หรือ NPL เช่นบริษัท มหาชน สองถึงสาม บริษัท ที่มีปัญหา ไม่ว่าจะมาจากการทำธุรกรรมที่เป็นเท็จ และหรือ การลงทุน และปล่อยวงเงินสินเชื่อให้เกินกว่า ความสามารถชำระหนี้ของกิจการจะสามารถทำได้ เช่น บริษัท อสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง ในตลาดหลักทรัพย์ 

สำหรับผมเอง ผ่าน และพบประสบการณ์ต่างๆ มามากมาย เชื่อไหมครับ เจ้าของบริษัทเหล่านี้ เมื่อภาวะเศรษฐกิจดี ก็เข้ามาขอกู้กัน พอเริ่มเดี้ยง ก็ปรับโครงสร้างหนี้ ถ้าบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็หาทางแต่งเรื่อง แต่งสตอรี่ขึ้นมา ปั่นหุ้น พอหุ้นขึ้นตัวเองก็ขายหุ้นออกเกือบหมด สบายตัวไป แล้วก็ หาธุรกิจตามกระแสทำใหม่ต่อ ต่อไปแบบนี้เรื่อยๆ เอาเงินแบงค์ แล้วก็เอาบริษัทเข้าตลาดหุ้นใหม่ วนเวียนกันอยู่แบบนี้ละครับ เตือนกันไว้เลยนะครับ เล่นหุ้นกันนะ ระวังจะโดนหุ้นเล่นเอานะครับ 

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจให้ผม เป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

หนี้เสีย NPL ต้นเหตุคือ โปรโมชั่นสินเชื่อกู้ซื้อบ้าน จริงๆ เหรอ


ปี 2560 นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ แบงค์ชาติ ประเมินว่า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ NPL จะขยายตัว มาอยู่ที่ เกิน3%  และในส่วนของสินเชื่อธุรกิจ SME สำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มีการขยายตัวของหนี้ NPL มากว่าหนี้ตัวอื่นๆ และหนี้ที่ผมให้ความสนใจและคิดว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ มานำเสนอคือ หนี้สินเชื่อบ้าน หรือ สินเชื่อเพื่อการเคหะ ซึ่งแบงค์ชาติคาดว่า จะมีหนี้ NPL อยู่ที่ระดับ 3.2% แต่ประเด็นที่น่าสนใจอยูที่ตรงนี้ครับ

ธปท. บอกว่า เนื่องจาก 2-3 ปี ที่แล้ว ธนาคารพาณิชย์มีการแข่งขันกันปล่อยกู้สินเชื่อบ้าน และมีการกระหน่ำโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม กันเกือบทุกแบงค์ แต่โปรหลักที่ใช้กันคือ ในช่วง 3 ปี แรก ลดดอกเบี้ย ลดค่างวดการผ่อนชำระหนี้บ้าน แต่พอครบ 3 ปี ค่างวดที่ต้องชำระหนี้ มันปรับตัวขึ้น เป็นค่างวดตามมาตรฐานตามปกติ ทีนี้ก็มีปัญหาซิครับ เกิดผ่อนไม่ได้กันขึ้นมา เริ่มเดี้ยง มันก็เลยส่งผลกระทบกันมาเห็นกันในปีนี้ไงครับ 

ผมจะขออธิบาย ดังนี้ละกันครับ มาตรฐานการผ่อนชำระหนี้บ้านนะครับ เราคำนวณระยะเวลากู้ เบื้องต้นกันที่ประมาณ 20-25 ปี ละกันนะครับ ในการที่จะผ่อนหนี้หมด และมาตรฐานคือ จะผ่อนหนี้ ที่เป็นหนี้ 1.0 ล้านบาท ผ่อน เดือนละ 7,000-7,500 บาท ต่อเดือนครับ คือ ถ้าเป็นหนี้ 3.0 ล้านบาท ก็ผ่อนกันเดือนละ 21,000-22,500 บาท ครับ ตามมาตรฐาน 

แต่ แต่ !!!!!!!! อย่าที่บอกครับ เมื่อ 2-3 ปี ก่อน แข่งขันกันดึงลูกค้า โปรโมชั่น 3 ปี แรก ดอกเบี้ย เฉลี่ย 4% ผ่อนค่างวด เหลือล้านละ 5,500 บาท ต่อเดือน.......... อันนี้ผมยกตัวอย่างนะครับ ซึ่งอันที่จริงแล้วนะ ถ้าธนาคารเขาพิจารณาจากเงินเดือนของผู้กู้ ว่าสามารถผ่อนหนี้ได้เดือนละ 7,000 บาท ก็สามารถกู้ได้ 1.0 ล้านบาท แต่ถ้าดันไป วิเคราะห์ให้ความสามารถผ่อนลดลง เป็น 5,500 บาท แทนละก็ เพื่อให้ลูกค้าได้วงเงินกู้สูงขึ้น แต่คิดว่า อีก 3 ปี ลูกค้า จะสามารถขยับการผ่อนมาเป็นยอดที่ 7,000 ได้ละก็ สถานการณ์หนี้เสีย หนี้ NPL ในปี 2560 ปีนี้ ก็เริ่มปรากฏให้เห็นกันบ้างแล้วละครับ

นี่ละครับ ผลของการเล่นโปรโมชั่นของแต่ละแบงค์ ก็ต้องลองดูกันต่อไปครับ แต่ แบงค์ยังประเมินต่อไปว่า หนี้เสีย NPL ยังอาจจะมีอาการไหลมาอย่างต่อเนื่อง แล้วแบบนี้ ปีหน้า เศรษฐกิจ มันจะดี จริงไหม??

ติดตามผมได้ที่ช่อง YouTube หรือ อ่านบทความอื่นต่อได้ที่ Antonio Attorney

ติดต่อผมได้ที่ LineID : @antonio


วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2554

เงินเฟ้อ หนี้เสีย ดอกเบี้ยขึ้น กับการทำงานแค่มีกาแฟสักแก้ว note book สักเครื่อง พอจริงๆ เหรอ





เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมได้เข้าร้านหนังสือ เห็นหนังสือติดอันดับขายดี หลายๆเล่ม ที่เกี่ยวกับตลาดหุ้น สอนวิธีการเล่นหุ้น แต่มีเล่มหนึ่ง หน้าปกว่า แค่มีกาแฟสักแก้ว  โซฟานั่งสบาย และสุดท้ายโน้ตบุค หรือ แทปเลต สักเครื่อง ชีวิตคุณก็ จะมีเงินใช้สบายๆ จากตลาดหุ้นแล้ว อ่านแล้วไม่สบายใจ มันคันหัวใจจริงๆ ครับ
ok คุณเก่งครับ เล่นหุ้นได้กำไรเยอะแยะ ต่างจากผม ที่เคยเล่นหุ้นได้บ้าง เสียบ้าง แต่ผมเลิกเล่นมานานแล้ว น่าจะห้าหกปีแล้วครับ  แต่ผมว่า ตอนนี้หุ้นมัน พันกว่าจุดแล้วครับ ขึ้นมาจาก 600-700 จุด ใครเล่นถือยาวไว้ก็กำไรทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจาก capital gain ก็ เงินปันผล ละครับ ถ้าเก่งจริงนะ ก็ กำไรตอนหุ้นลงจาก 1000 กว่าจุด ลงมา 600 กว่าจุดซิครับ  ผมเคยเป็นครับ แบบนี้นะ ไม่ว่าจะคุยนะครับ ผมเปิดพอร์ทเล่นหุ้นตั้งแต่ อยู่ปี 3 มหาลัยฯ แล้ว เล่นมาตั้งแต่ปี 38 แล้ว เล่นได้บ้าง เสียบ้าง ช่วงนั้นบ้ามาก วาณิชธนกิจ อาชีพในฝันของผม  แต่เป็นไม่ได้ เป็นได้แค่สินเชื่อ SME ก็ยังดีครับ ผมอ่านหนังสือการวิเคราะห์การเงิน วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ก่อนซื้อหุ้นแต่ะตัว ต้องศึกษา ว่า บริษัทฯ ทำธุรกิจอะไร มีจุดอ่อน จุดแข็งอย่างไร DE ratio  PE ratio การดูกราฟ อีเลียตเวฟ แคนเดิลสติก วิเคราะห์งบ แบบว่ากูเก่งโครตๆ อ่านตำรามาจากสูตรต่างๆ จำได้แม่นทุกสูตร รู้หมด บริษัทฯ นี้ทำอะไร มีกี่ธุรกิจ ผู้บริหารชื่ออะไร มีสาขากี่แห่ง ทรัพย์สินมีอะไรบ้าง มีหนี้สินกี่เท่า โอ้ยรู้หมด คิดแล้วว่ากูเก่ง  พอมาทำงานธนาคาร เป็นสินเชื่อ ไปเยี่ยมลูกค้าท่านหนึ่งกับลูกพี่ ผู้บริหารหนังสือพิมพ์กีฬาฉบับดัง พอไปถึงท่านบอกนั่งรอผมก่อน หาเงินเดือนใหู้ลูกน้องก่อน เดี๋ยวคุยด้วย ท่านบอกว่าเทรดหุ้นอยู่ พวกผมก็ถามว่าเล่นตัวไหนละครับ ช่วยแนะนำด้วย ท่านบอก ก็หุ้นบริษัทผมนี่ละ ผมเลยเก็ตเลย ขาใหญ่ลากขึ้นลากลง นี่เราเคยจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบริษัทนี้หรือเปล่าวะเนี่ย  อีกครั้งตอนเป็น F.A. ทำงานให้กับลูกค้ารายหนึ่ง เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ฉบับหนึ่ง หนี้เสียโครตเยอะ ตอนนี้หนังสือพิมพ์นี่ไม่มีแล้วนะ ทำงานแก้ไขหนี้ให้ท่าน  จนท่านล้มละลายไปเรียบร้อยแล้ว แต่ล้มไม่เจ็บเท่าไร มีเบาะรองไว้ เข้าเรื่องต่อ ท่านชอบมาแนะนำหุ้นตัวโน้น ตัวนี้ เดี๋ยวลากแน่ แล้วก็เป็นจริงๆครับ ตามท่าน ได้กำไรมาพอสมควร แต่พอไม่ได้ทำงานั้นแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อท่านอีกเลย
ผมกำลังจะบอกว่า หุ้นไทยนะ หรือประเทศอื่นเป็นด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะ insider เท่านั้นถึงจะอยู่ได้ครับ จริงๆ
อย่างทฤษฎี ดอกเบี้ยลง หุ้นขึ้น ดอกเบี้ยขึ้นหุ้นลง ใครๆก็เรียนมาแบบนี้ แต่เมื่อไม่กี่เดือน กนง. ของ ธปท. ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่หุ้นขึ้น นักวิเคราะห์บอกค่าเงินบาทแข็ง จะทำให้เงินนอกไหลเข้ามาเยอะ แต่พออีกสักพักหุ้นร่วง บอกนักลงทุนกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ย โอ้ยจะบ้าตาย นักวิเคราะห์เมืองไทย  ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์มันเพี้ยนไปหมดแล้ว ผมว่านะมันคือการพนันดีๆนี่เอง ถ้าอยากเล่นการพนันนะ เล่น บาคาร่า ออนไลน์ดีกว่ามั้ง มันส์กว่า
ผมไม่อยากให้น้องๆ รุ่นหลัง มาอ่านหนังสือ แล้วคิดว่าหาเงินกันง่ายๆ นั่งเทรดหุ้นตามร้านกาแฟ สบายๆ ได้เงินใช้ จริงๆ นะ มันจะทำได้สักกี่วัน อยากรู้จริงๆ  ทำมาหากิน real sector นะ รุ่นปู่ย่า ตายาย เค้าทำมาหากินกันด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย กันมานะครับ
ส่วนหุ้น  เล่นนะเล่นได้ครับ แบบ value investment ถือยาวหุ้นพื้นฐานดี ไม่ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอ ดูราคาขึ้นลงหรอกครับ  ซื้อเมื่อราคาหุ้นลงแต่พื้นฐานไม่เปลี่ยน ขายออกบางส่วนเมื่อหุ้นขึ้น ขายทิ้งเมื่อปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยน รอซื้อขายเมื่อเทรนใหญ่มาหรือเปลี่ยนเทรน

เงินเฟ้อกำลังมาแล้ว 5% ครับ ได้เห็นแน่ เวียดนามล่อไป 12% แล้ว น้ำมันขึ้นกว่าร้อยเหรียญแล้ว  ดอกเบี้ยวิ่งแน่  อีกสักพัก ใครที่มีกาแฟสักแก้ว โซฟานุ่มๆนั่งเทรดหุ้น กดโน้ตบุค  สบายได้เงินใช้ ผมจะรอดูครับว่าความฝันของนักลงทุนรุ่นใหม่จะเป็นจริงหรือเปล่า  สวัสดีครับ

โพสต์แนะนำ

ที่ปรึกษา เพื่อแนะนำ เทคนิค วิธีการ การ กู้เงิน ขอสินเชื่อ แก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับคนที่มีปัญหา กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ขอสินเชื่อกับ ธนาคารไม่ผ่าน แบงก์ ไม่อนุมัติ หรือ ท่านที่มีปัญหาหนี้เสีย ภาระหนี้สินมากและยัง...

บทความที่น่าสนใจ