แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กู้เงินซื้อบ้าน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ กู้เงินซื้อบ้าน แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

ซ้อมกู้บ้าน ยิ่งซ้อมนาน โอกาสจะยิ่งกู้ผ่าน ยิ่งมีมาก


การกู้ซื้อบ้าน ขอสินเชื่อบ้าน จากธนาคาร เขาจะดูความสามารถในการชำระหนี้ นอกเหนือจากดูเรื่องประวัติการผ่อนชำระหนี้ ในเครดิตบูโร 

การซ้อมกู้บ้านคืออะไร คือ การสะสมเงินออม เท่ากับค่างวดที่คุณจะต้องผ่อนบ้าน หรืออีกในหนึ่งคือ เก็บเงินออมไว้ก่อน ที่จะต้องเริ่มผ่อนค่างวดบ้านจริงๆ ละครับ ยิ่งซ้อมนานมาก่อนที่จะยื่นกู้หลายๆ ปี ยิ่งดี ลองเข้าไปฟังในคลิปกันครับ 

สำหรับท่านที่ ติดปัญหา เรื่องการกู้ซื้อบ้าน ขอสินเชื่อบ้าน ธนาคารไม่อนุมัติ มีประวัติค้างผ่อนชำระ ในเครดิตบูโร คุยกันได้ครับ ที่ LineID : @antonio  ครับผม


วันศุกร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2560

ถ้าคิดจะเก็บเงินไว้กินตอนแก่ จะซื้อประกัน หรือกู้เงินซื้อบ้านดี?


จากหัวข้อเรื่อง เพื่อนๆ บางคนอาจจะงง เก็บเงินโดยการซื้อประกัน กับ เก็บเงินแบบกู้ซื้อบ้าน มันเอามาเปรียบเทียบกันได้ยังไง คือ อีกอันคือเก็บเงินออม อีกอันคือเป็นหนี้ มาๆ ครับ ผมจะอธิบายให้ฟังครับ

เริ่มเลยครับ การเก็บเงินออม แบบซื้อประกัน ไม่ว่าจะเป็น การประกันแบบออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ หรือ ประกันชีวิต อะไรก็ตาม ผมขอจะไม่ลงไปในรายละเอียดนะครับ แต่หลักการคือ คุณต้องลงเงินออมเป็นรายเดือน รายปี เท่าไรก็ได้ ตามที่เขากำหนด พอครบกำหนด สมมติแบบมีประกันชีวิตพ่วงด้วย ถ้าคุณไม่ตายซะก่อน ก่อนครบกำหนด คุณก็จะได้เงินหรือผลตอบแทน ตามที่บริษัทประกัน เขากำหนดไว้ตั้งแต่แรก อันนี้ พอเข้าใจกันใช่ไหมครับ สรุปก่อนนะครับ ประเด็น คือ คุณต้องเก็บออมรายเดือน หากจ่ายเป็นรายปี คุณก็ต้องเก็บออมเหมือนกัน คือรวบรวมเป็นเดือนเพื่อสะสมเป็นปี โอเค อันนี้เข้าใจตรงกันแล้วนะครับ คือเราต้องเก็บออมเงินรายเดือน อะๆๆๆ ต่อมา 

แล้วการกู้เงินซื้อบ้านละ สมมตินะครับ ผมไม่ขอลงไปในรายละเอียดวิธีการกู้นะครับ อันนั้น หาอ่านเอาใน blog ของผมได้ครับ สรุปคือ ธนาคารเขาจะอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้านของคุณ ตามรายได้ และความสามารถผ่อนชำระหนี้ ใช่ไหมครับ สมมติคุณกู้มาได้ละ เอาเป็นบ้านราคา 1,500,000 บาท ละกัน คุณต้องผ่อนเดือนละ 10,000 บาท เงินเดือนคุณตามมาตรฐาน ก็ต้องไม่น้อยกว่า 25,000 บาท สมมติ คุณเงินเดือน 3x,xxx กว่า ละกัน ผ่อนรถคัน มีบัตรเครดิตสักสองใบ ตายละ ต้องผ่อนบ้านอีกเดือนละ 10,000 บาท ตายแน่ แค่ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต ฉันก็ไม่เหลือเงินเก็บแล้ว อ้อลืมบอกไป ตอนนี้ส่วนใหญ่ ในการกู้ซื้อบ้าน ธนาคารเขาจะบังคับให้คุณทำประกันชีวิต หากในช่วงระยะเวลาที่คุณผ่อนบ้านอยู่เกิดเสียชีวิต บริษัทประกัน เขาชำระหนี้ทั้งหมดให้คุณเลย ลูกหลานก็สบายไม่ต้องมาผ่อนบ้านแทน


ทีนี้ลองมาเปรียบเทียบกันดูครับ ว่า การเก็บเงินซื้อประกัน กับการกู้เงินแล้วผ่อนบ้าน แบบไหนจะดีกว่ากัน  เริ่มเลย สมมติหลักการของประกัน คือ คุณต้องจ่ายค่าเบี้ยทุกเดือน เดือนละเท่าไรก็ว่ากันไป เงื่อนไขคือ คุณ จ่ายไปครบตามกำหนดเขา สมมติระหว่างจ่ายคุณไม่เสียชีวิต เอาเป็นตัวเลขดีกว่า สมมติคุณจ่ายเบี้ยเดือนละ 10,000 บาท ไปอีก 6 ปี พอจ่ายครบ และรอไปอีกจนครบ 15 ปี คุณจะได้เงินคืนประมาณ 8xx,xxx บาท อ่า อันนี้พอเข้าใจนะครับ หลักการที่ผมอยากให้คุณได้คิดตามคือ หลักการที่จ่ายเป็นเบี้ยหัวแตก แต่ได้เงินก้อนจำนวนหนึ่งที่รู้แน่นอนว่าได้เท่าไร เน้นนะครับ รู้แน่นอนว่าได้เท่าไร ในตอนจบ อันนี้มีภาพประกอบ จากตารางการจ่ายเบี้ยประกันออมทรัพย์ ครับ

จ่ายเบี้ย 6 ปี จำนวน 612,000 ได้เงินคืน ปีที่ 15 จำนวน 771,000 ลองคำนวณดูครับ

แต่การกู้ซื้อบ้าน ผมยึดตัวเลขเดียวกันครับ สมมติคุณซื้อบ้านมาหนึ่งหลัง เป็นทาวน์เฮาส์ละกัน ราคา 1.5 ล้านบาท ผ่อนเดือนละ 10,000 บาท แบงก์บังคับประกันชีวิตคุ้มครองเงินกู้ด้วย หากตาย บริษัทก็ใช้หนี้แทน อันนี้ประเด็นปลีกย่อยผ่านไปก่อน คุณก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ผ่อนไปบ่นไป เงินเก็บก็แทบจะไม่เหลือ ผ่อนบ้าน ค่าเทอมลูก ค่าบัตรเครดิต เอ้า ผ่อนไปครับ ไม่ต้องบ่น ผ่านมา สัก 5 ปี เออ หน้าที่การงานดีขึ้น เงินเดือนเยอะขึ้น แต่ๆๆๆ ค่างวดบ้านเรายังเท่าเดิมนี่หว่า สบายขึ้นนะ เอ้า ผ่อนต่อ ผ่อนงวดละ 10,000 บาท ผ่านมาอีกสักสิบปี เงินเดือนเยอะขึ้น เริ่มมีเงินเก็บบ้างแล้ว แต่ไม่เยอะ เอาเงินมาปรับปรุงบ้านสักหน่อย สองสามแสน ก็ขอกู้มาต่อเติมบ้าน ผ่อนไปผ่อนมา เฮ้ย จะสิบห้าปีแล้วเหรอ หนี้ที่เรากู้มา 1.5 ล้านบาท ตอนนี้ หนี้เงินต้นมันเหลือไม่ถึง 500,000 แล้วเว้ย จะเป็นอิสระจากหนี้แล้วเว้ย อารมณ์ดี ขับรถออกจากบ้านไปกินข้าว บังเอิญเห็นป้ายขายบ้าน บ้านแถวนั้น เขาประกาศขาย ลองโทรไปถามซิ เขาขายเท่าไร พอได้ฟังเท่านั้นละ แทบเป็นลม เขาตั้งราคาขายไว้ 3.2 ล้านบาท แถบป้าที่ประกษสขายบ้านแกบอกว่า บ้านข้างๆขายไปเมื่อปีที่แล้ว ที่ราคา สามล้าน แม่เจ้า แล้วเมื่อเราผ่อนบ้านหมด บ้านเราจะราคาเท่าไรเนี่ย !!!!!!!!

ครับ อ่านมาถึงตรงนี้ พอจะสรุปง่ายๆ ให้เข้าใจนะครับ คือ 
  1. ซื้อประกัน คุณจะรู้แน่นอน ว่าบั้นปลาย จะได้เงินเท่าไร จากเงินที่คุณเก็บออมมา ในกรมธรรม์นั้น
  2. การกู้เงินซื้อบ้าน คุณก็ผ่อนไปเรื่อยๆ เหมือนจ่ายเบี้ยแหละ แต่คุณไม่รู้ว่า ราคาบ้าน มันจะไปไกลแค่ไหน แบบนี้ พอจะคิดอะไรออกกันบ้างแล้วไหมละครับ ว่า การกู้เงินซื้อบ้าน มันดียังไง บ้านก็มีอยู่ เงินงวดที่ผ่อน ก็เงินนี้ละคือเงินเก็บของคุณ

มาถึงตรงนี้ เพื่อนๆ ก็คงรู้แล้วซินะครับ ว่า การกู้เงินซื้อบ้าน ขอสินเชื่อบ้าน แล้วเราต้องเป็นหนี้แบงก์ มันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลยครับ มาๆ มาเป็นหนี้บ้านกันเถอะครับ

และหากท่านที่ประสบปัญหา กับการกู้เงินซื้อบ้าน ขอสินเชื่อบ้านไม่ผ่าน ธนาคาร ไม่อนุมัติ ลองไลน์มาคุยกันครับ ตอบได้ จะตอบให้ทุกข้อความนะครับ LineID: @antonio 



วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2559

กู้ซื้อบ้าน ได้เต็มวงเงิน กู้ได้ 100% ทำได้จริงเหรอ?


ทุกๆ คน เวลาจะซื้อบ้าน แล้วต้องกู้เงิน จากสถาบันการเงิน เกือบทุกคน อยากได้วงเงินกู้สูงๆ ให้ได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือบางคน กู้เหลือเงินได้ยิ่งดีครับ น้อยคนนักที่จะบอกว่า เอาแค่นี้พอ ไม่ยากเป็นหนี้เยอะ ผมแทบจะไม่เจอ และผมก็จะเจอเกือบทุกวันครับ ที่โทรมาบ้างละ อินบอกซ์มา ไลน์มา อีเมลมา ว่า ต้องการกู้ให้ได้100% หรือ กู้เงินเหลือบ้างละ อันนี้ ผมขอใช้โอกาสนี้ อธิบาย ให้เข้าใจกันดีกว่านะครับ 

หลักเกณฑ์ของธนาคาร ในการให้วงเงินกู้ คือ 
1. บ้าน ทาวน์เฮาส์ คอนโด อันนี้ จะให้วงเงินประมาณ 80 - 100% เงื่อนไขขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
2. ตึกแถว อาคารพาณิชย์ 70-90% เงื่อนไขขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร
3. ที่ดินเปล่าให้ 60-70% อันนี้ มีธนาคารเดียวที่ให้กู้ที่ดินเปล่า คือ ธนาคาร กรุงเทพ ครับ

ต่อมา ไอ้ที่ว่า ให้วงเงินกู้ คือ 80-100% คือยังไง ยังงี้ครับ ธนาคารเขาจะ มี สองตัวมาเปรียบเทียบกัน อันไหน ต่ำกว่า ยึดตัวเลขนั้น เช่น ให้กู้ 90%

ตัวอย่าง คุณซื้อบ้านจริง 1.0 ล้านบาท แต่คุณทำสัญญา ซื้อขายไปหลอกธนาคาร ว่า ซื้อขายที่ 1.2 ล้านบาท แล้วธนาคารส่งบริษัทไปประเมิน ประเมินราคาได้ 1.0 ล้านบาท ธนาคาร จะเอา ราคาตามสัญญาซื้อขาย ( ที่คุณทำหลอกธนาคาร ) คือ 1.2 ล้านบาท กับ ราคาประเมินของธนาคาร คือ 1.0 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกัน อันไหน ราคาต่ำกว่า ก็ยึดตัวนั้น คือ ยึดราคาประเมินของธนาคารครับ ที่ 1.0 ล้านบาท ธนาคารให้กู้ 90% คุณก็จะได้วงเงินกู้ไป 900,000 บาท อันนี้เติมเงิน 100,000 บาท

ตัวอย่าง ในทางกลับกัน คุณซื้อบ้านจริง 1.0 ล้านบาท แต่คุณทำสัญญา ซื้อขายไปหลอกธนาคาร ว่า ซื้อขายที่ 1.2 ล้านบาท แล้วธนาคารส่งบริษัทไปประเมิน ประเมินราคาได้ 1.3 ล้านบาท ธนาคาร จะเอา ราคาตามสัญญาซื้อขาย ( ที่คุณทำหลอกธนาคาร ) คือ 1.2 ล้านบาท กับ ราคาประเมินของธนาคาร คือ 1.3 ล้านบาท มาเปรียบเทียบกัน คืออันนี้ ธนาคารดันประเมินราคาสูงกว่าที่สัญญาซ์้อของคุณที่ทำหลอกไปซะอีก แต่ยังไงก็ตาม ธนาคารจะยึดว่าอันไหน ราคาต่ำกว่า ก็ยึดตัวนั้น คือ ยึดราคาตามสัญญาซื้อขาย ที่ 1.2 ล้านบาท ธนาคารให้กู้ 90% คุณก็จะได้วงเงินกู้ไป 1,080,000 บาท อันนี้ละครับ ที่เรียกว่ากู้เกิน กู้เหลือเงิน  เหลือเงิน 80,000 บาทครับ ....พอจะเข้าใจกันหรือยังครับ

คำว่ากู้ได้ 100% ก็คือ ราคาประเมินทรัพย์ น่าจะสูงกว่า ราคาซื้อขายในท้องตลาดครับ มันถึงจะทำได้ ครับ  หรือ บางท่าน จะซื้อบ้านโครงการบ้านใหม่ ถ้าอยากจะกู้ได้วงเงิน 100% ต้องซื้อกับโครงการของบริษัทใหญ่ๆ ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นครับ มีอยู่ 5-7 บริษัท ลองเลือกเองละกันว่าจะซื้อกับใคร 

อย่างลูกค้าผมล่าสุด ซื้อบ้านราคา 7.5 ล้านบาท แต่ โครงการทำหนังสือ สัญญาราคาซื้อขาย ที่ 8.2 ล้านบาท และโครงการแนบใบส่วนลดให้ 700,000 บาท ก็คือ ซื้อขายจริงที่ 7.2 ล้านบาท แต่เราไม่ได้เอาใบส่วนลดไปยื่นกู้ ก็คือ เอาเฉพาะสัญญาราคาซื้อขายที่ทำกับโครงการ ไปยื่นที่ราคา 8.2 ล้านบาท ครับ และสำหรับธนาคาร ถ้ามีการซื้อผ่านจากโครงการใหญ่ๆ บิ๊กเนม แล้ว เขาจะประเมินราคาให้ตามสัญญาซื้อขายที่โครงการทำให้เลยครับ ลูกค้าของผมรายนี้ แกรายได้เยอะ แต่มีการติดประวัติเครดิตบูโรมาก่อน จึงกู้ไม่ผ่าน ผมเลยได้มีโอกาสรับใช้ ก็จบไปเรียบร้อยครับ โอนไปแล้ว ลูกค้ากู้ได้ เต็มวงเงิน 8.2 ล้านบาท เหลือเงินส่วนต่าง 700,000 บาท เต็มๆ ครับ

อย่างนี้พอเข้าใจ คำว่ากู้ได้100% หรือยังครับ ไม่ใช่ ที่ผมเจอบ่อยมาก ลูกค้าหาบ้านมา บอกรายละเอียดบ้านมา ผมบอก พี่จับบ้านตัวนี้มา 3.0 ล้าน จะกู้เต็มวงเงิน 100% ยากครับ แถวนั้น เขาขายกัน 2.5-3.0 ล้านบาท ราคาประเมินไม่ถึงแน่นอน หากประเมินได้สูงสุด 3.0 ล้านบาท และเป็นบ้านมือสอง สมมติธนาคารให้กู้ 90% คุณก็ได้วงเงินแค่ 2.7 ล้านบาทเองครับ การจะกู้ได้วงเงินสูงๆ หรือ 100% นั้น คุณต้องจับบ้านมาในราคาที่ถูกกว่าราคาตลาดอย่างน้อย 10-20% ครับ ถึงจะทำได้ อันนี้พอเข้าใจกันแล้วนะครับ

และสำหรับท่านที่ติดปัญหา กู้ซ์้อบ้านไม่ผ่าน ติดปัญหาเครดิตบูโร อยากให้ผมช่วยดูแล และดำเนินการจัดการยื่นกู้ให้ ยินดีเลยครับ ติดต่อ email: antonioattorney@gmail.com หรือ Line ID: @antonio ยุทธนาครับ ยินดีรับใช้ 


วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555

กู้เงินซื้อบ้าน กู้ไม่ผ่าน ธนาคารไม่อนุมัติ ติดเครดิตบูโร ลองอ่านดูครับ



ปัญหากู้เงินซื้อบ้าน แล้วกู้ไม่ผ่าน ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ ติดปัญหาเครดิตบูโร หรือ สำหรับท่านเจ้าของกิจการ กู้ไม่ผ่าน หรือได้วงเงินไม่พอ  เอกสารการยื่นกู้ไม่พร้อมสมบูรณ์ ปัญหาต่างๆ ในการยื่นกู้ขอสินเชื่อ ลองพิจารณาบริการของเราซิครับ

ในการดำเนินการของเรา ขอพิจารณาเอกสารของท่านก่อนเพื่อจะได้แนะนำ และช่วยจัดเตรียมเอกสารในการยื่นกู้ธนาคารให้ครับ  เราใช้เวลาในการดำเนินการไม่นานครับ ภายในไม่เกิน 7 วันทำการ เราจะให้คำตอบแก่ท่าน ว่าได้ หรือ ไม่ได้  ไม่ให้ท่านมากังวล และรอให้เสียเวลาครับ และถ้าเราทำได้ จะแนะนำและนำส่งเอกสารให้กับธนาคารที่เหมาะกับท่าน เพื่อดำเนินการต่อไปครับ เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลายๆ ธนาคารครับ เราจะเลือกธนาคารที่ดีที่สุดให้กับท่าน

เราดำเนินการด้วยความซื่อสัตย์ จริงใจ ชัดเจนครับ  สนใจสอบถาม 081 869 0878   antonioattorney@gmail.com

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

คำถาม สำหรับ ผู้ที่อยากกู้เงินซื้อบ้าน


คำถามยอดฮิต สำหรับผู้ที่จะต้องยื่นกู้เพื่อขอสินเชื่อในการซื้อบ้าน

1. อยากกู้เงินซื้อบ้าน แต่กู้ไม่ผ่านทำอย่างไรดี


คำตอบคือ ในการยื่นกู้นั้น แบ่งเป็น กลุ่มลูกค้าสองประเภทนะครับ
1) มนุษย์เงินเดือน อันนี้ต้องมาดูว่าที่กู้ไม่ผ่านมีไม่กี่กรณี  คือ รายได้ที่จะกู้ไม่พอ  หรือ มีภาระหนี้ สูงเกินครึ่งของเงินเดือน หรือสุดท้าย ติดแบล็คลิสต์ หรือบางกรณี ชำระหนี้หมดแล้ว แต่เคยมีประวัติจ่ายล่าช้า

คำตอบจาก หลายๆ ปัจจัยนี้ ทีมงานเราช่วยคุณได้ครับ

2) เจ้าของกิจการ แบ่งเป็น จดทะเบียนการค้า  มีการยื่นเสียภาษีถูกต้อง และแบบสอง ไม่มีทะเบียนการค้า แต่ประกอบธุรกิจจริง

คำตอบ แบบแรกต้องมาจัดเตรียมเอกสารกันมากหน่อยครับ  ส่วนแบบสองผมไม่รับงานครับ เนื่องจากยากมากครับ แต่ผมจะแนะนำให้นะครับ ว่าคุณต้องไปเตรียมตัวมาใหม่อย่างไร คงต้องแต่งตัวกันพอสมควรครับ

2. เคยมีประวัติติดแบล็คลิสต์ ประวัติเครดิตบูโรไม่ดี แล้วจะกู้ได้ไหม จะผ่านไหม

ตอบครับ  กู้ได้ครับ แต่ไม่ได้ทุกๆ กรณีนะครับ ขึ้นอยู่กับ ประวัติคุณด้วยครับ ถ้าไม่หนักมาก หรือหนักพอสมควร ทีมงานเราทำได้ครับ  แต่ถ้าประวัติเน่าเกินเยียวยา ขอไม่รับงานครับ

3. ติดหนี้ ติดบูโร แต่ชำระหนี้แล้ว กู้ได้ไหม

ตอบครับ กู้ได้ครับ แต่แล้วแต่กรณีครับ ต้องขอดูเอกสารก่อนครับ

4. อยากกู้บ้าน แล้วเหลือเงิน

ตอบครับ ได้ครับ แต่ต้องดูบ้านที่คุณต้องการซื้อด้วยนะครับว่า  ผมจะอัพราคาประเมินได้เท่าไร แล้วคิดว่าจะกู้ได้สัดส่วนเท่าไร ตรงนี้ต้องมาขอดูรายละเอียดกันอีกครั้งนะครับ

คำตอบโดยสรุป

ทุกกรณี ทีมงานเราสามารถทำได้ครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขอดูเอกสารก่อนครับ  เพราะในการรับงานแต่ละเคส เราจะขอพิจารณาจากเอกสารของลูกค้าก่อนครับ

ในการรับงาน เราขอดูเอกสาร และสามารถให้คำตอบท่านได้ไม่เกินสามวัน ว่ารับทำหรือไม่ หากรับทำแล้ว โอกาสที่จะอนุมัติเกือบ 100% ครับ

เนื่องจากเราไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า  เก็บเงินเมื่อท่านโอนบ้านเรียบร้อยแล้วเท่านั้น  เราดำเนินการมานานกว่าสิบปี  เชื่อมั่นในสายสัมพันธ์ที่ดีต่อธนาคาร และ ซื่อสัตย์ จริงใจต่อลูกค้า และชัดเจน  

สนใจใช้บริการ ยินดีรับใช้ครับ  081 869 0878  email  antonioattorney@gmail.com

วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ช่วยผู้อยากมีบ้าน หรือ ช่วยใคร?

ธอส. ออกโปรแกรม ดอกเบี้ย 0% กี่ปีผมจำไม่ได้ 2 หรือ 3 ปี สำหรับผู้มีบ้านหลังแรก โดยมติ ครม.เลยทีเดียว วงเงิน 25,000 ล้านบาท ผมว่าก็ดีเหมือนกันนะครับ โปรแกรมนี้ของ ธอส. คงช่วยกระตุ้น ให้ผู้ประกอบการที่มี stock บ้าน คอนโด ราคาประมาณ 1-2 ล้าน ได้ระบายของออกกันได้ดีขึ้นครับ คำนวณคร่าวๆ  น่าจะมีบ้านที่โอนได้จากวงเงินนี้ไม่ต่ำกว่า 8000-10000 ยูนิตเลยละ เป็นการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ได้ดีทีเดียว กับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นแบบนี้
           แต่เงื่อนไขหนึ่งที่รับทราบมาครับว่า หากผู้กู้เคยเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน จะไม่สามารถกู้ได้นั้น ผมว่าไร้สาระครับ ธอส.เช็ค บูโร ผู้กู้ดูก็ได้นิครับว่าเคยกู้ซื้อบ้านหรือเปล่า ผมว่าบางคน เท่าที่ผมรู้จัก ก็ไม่เคยกู้ซื้อบ้าน แต่เคยเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน ยังงี้ก็กู้ไม่ได้ ผมว่าเงื่อนไขบางอย่างก็ยังไม่เข้าท่าเท่าไรครับ  แต่ก็ต้องขอชม ธอส. ครับ ว่าออกโปรแกรมนี้มาช่วยผุ้ประกอบการจริงๆ ครับ หรือช่วยผู้อยากมีบ้านอันนี้คิดกันเอาเอง ได้ข่าวว่า ผุ้ประกอบการบางราย เตรียมเอกสารยื่นกู้ กันตั้งแต่ไก่โห่เลยทีเดียว คนซื้อรายย่อย ซื้อบ้านมือสอง คงอดโควต้านี้แน่นอนครับ
งานนี้คนได้ประโยชน์ คงเป็นเจ้าของโครงการมากกว่าผู้ซื้อ เพราะผมว่าเงื่อนไขในการกู้ต่างๆ ลองอ่านและพิจารณากันดีๆ อาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ครับ มีด้วยเหรอ 0% ถ้าท่านกู้2.0ล้านบาท สมมติดอกเบี้ย 5% ธนาคารเสียผลประโยชน์ไป อย่างน้อยปีละ 80000-100000 บาทเลยทีเดียว คงต้องมีอะไรแฝงไว้แน่ๆ แต่ผมยังไม่ได้ศึกษารายละเอียดเท่าไร เลยไม่กล้าวิจารณ์มากครับ
ยังไงก็ดูกันดีๆ นะครับ วันนี้สวัสดีครับ

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

เรื่องง่ายๆ ในการกู้เงินธนาคาร

จะว่าเป็นเรื่องง่ายไหม ในการกู้เงินธนาคาร มันก็ไม่ง่ายนะ แต่กรณีที่กำลังจะเล่านี้มันตลกดี คือ มีผู้ใหญ่ที่เคารพท่านหนึ่ง แกขายบ้านของแกนะ เป็นเงิน 10 ล้านบาท ปรากฏว่าคนซื้อนะ บอกว่าจะขอปรึกษาธนาคารก่อนว่าจะกู้ได้ไหม ถ้าได้ ได้เท่าไร ผู้ซื้อก็เลย ไปสอบถามธนาคาร ธนาคารแจ้่งว่ากู้ได้ไม่เกิน 70% ของราคาซื้อขาย แต่ราคาประเมินต้องได้ด้วยนะ คือใกล้เคียงกัน ก็คือจะสามารถกู้ได้ 7 ล้านบาท ผู้ซื้อต้องเติมเงินอีก สามล้านกว่า  แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ เพราะเขาเป็นหมอ โรงพยาบาลเอกชน สามารถแน่นอน
ต่อมาคนขาย (คุณอา) ก็เลยให้หมอ มาคุยกับผม  ผมบอกว่าเดี๋ยวผมจะหาธนาคารกู้ให้นะ ผมรู้จักหลายที่ ( งานนี้การกุศลแน่เลยเรา ) อาจจะได้วงเงินกู้เพิ่มขึ้น ผมก็พิจารณาเครดิตหมอแล้ว จากเอกสารต่างๆ กู้ได้แน่ สบายๆ เพียงแต่ติดกฏของ ธปท. เท่าันั้น ที่ว่าสำหรับบ้านราคาเกิน 10 ล้านบาท กู้ได้แค่ 70% แต่ผมก็ใช้เทคนิคเล็กน้อย ที่ธนาคารที่ผมแนะนำไปให้นะ เขาให้ได้ 95% ( ในกรณีบ้านไม่เกิน 10 ล้านบาท ) ของราคาซื้อขาย หรือประเมิน อันไหนต่ำกว่าเอาราคานั้นเป็นมาตรฐาน  ผมรีบจัดแจงเลยครับ ซื้อขายกัน 10 ล้านใช่ไหม ทำสัญญาตัวใหม่เลย ให้ผู้ซื้อ ถือไว้คนเดียว หรือเรียกง่ายๆ ว่าฉบับหลอกธนาคารครับ ซื้อขายกันที่ 9.8 ล้านบาท สามารถกู้ได้ 95% เท่ากับ เงินกู้ที่ได้รับการอนุมัติ 9.3 ล้านบาท จบ
เรื่องแบบนี้ ก็ง่ายๆ นะ สำหรับการกู้เงินธนาคาร กับ ผู้กู้ที่มีศักยภาพ แต่ตลกดี ทำราคาซื้อขายหลอก ให้น้อยกว่าราคาซื้อขายจริง ดันทะลึ่ง ได้วงเงินสูงกว่า  ธปท. อย่ามาอ่านบทความนี้ละ   สวัสดีครับ

โพสต์แนะนำ

ที่ปรึกษา เพื่อแนะนำ เทคนิค วิธีการ การ กู้เงิน ขอสินเชื่อ แก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับคนที่มีปัญหา กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ขอสินเชื่อกับ ธนาคารไม่ผ่าน แบงก์ ไม่อนุมัติ หรือ ท่านที่มีปัญหาหนี้เสีย ภาระหนี้สินมากและยัง...

บทความที่น่าสนใจ