แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนี้บัตร แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หนี้บัตร แสดงบทความทั้งหมด

วันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2561

กฏหมายแพ่งใหม่ ระวังโดนธนาคารหลอกให้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ


เป็นหนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนบัตรเครดิตไม่ไหว สุดท้าย เมื่อเป็นคดีความ ฟ้องร้องเรื่องสัญญากู้เงิน ระหว่าง ธนาคาร กับ ประชาชน มีคดีกันเยอะ คดีเต็มศาล กฏหมายใหม่ เปิดโอกาสให้ ธนาคารเจรจาและกล่อมให้ลูกหนี้ เซ็นต์สัญญาประนีประนอมยอมความ กันก่อน โดยยังไม่ต้องฟ้อง และให้กลายเป็นคำพิพากษาไปซะ ..........เราต้องรู้เท่าทัน ธนาคารนะครับ ลองศึกษาในคลิปนี้ดูครับ

สนใจให้ผมเป็นที่ปรึกษาการเงินส่วนตัว คลิกเลยครับ

วันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2560

หนี้บ้าน หนี้บัตร หลังจากโดนธนาคารฟ้องแล้ว ขั้นตอนการยึดทรัพย์ นานไหม


หนี้ผ่อนบ้าน หนี้บัตรเครดิต หากเริ่มผ่อนไม่ไหว ต้องเริ่มเจรจา อย่าปล่อยจนธนาคารฟ้อง และไปสู่ขั้นตอนการยึดทรัพย์ ยึดบ้านขายทอดตลาดนะครับ ลองฟังคลิปนี้ดูนะครับ

สำหรับท่านที่สนใจ มีที่ปรึกษาด้านการเงิน เพื่อแนะนำการเจรจหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ คลิกเลย 

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

หลักการง่ายๆ ทำได้ กู้เงินธนาคาร กู้ซื้อบ้าน ผ่านกันทุกคน


ผมไม่ได้เขียนบทความมานาน เนื่องจากช่วงหลังไม่ค่อยมีเวลามากนักครับ งานเข้าเยอะมาก เลยไม่มีเวลาเรียบเรียบข้อมูล และอัพเดท นโยบายใหม่ๆ ของแต่ละธนาคารครับ วันนี้พยายามจะสรุปข้อมูลให้เพื่อนๆ ได้เอาไว้เป็นหลักการ เพื่อเตรียมตัวยื่นกู้ซื้อบ้านกันครับ หลักการข้อแรก ครับ

1. ให้สำรวจตัวเองก่อนครับ ว่ารายได้ของเรา สามารถกู้เงินเพื่อซื้อบ้านได้สูงสุดวงเงินเท่าไรครับ ที่ธนาคารเขาจะอนุมัติให้เราได้ ง่ายๆ ครับ รายได้ หักภาระหนี้ แล้วเหลือเท่าไร คูณด้วย 60 ครับ นั่นละครับ คุณจะได้วงเงินสูงสุด ที่ธนาคารจะอนุมัติให้ครับ ย้ำนะครับ วงเงินสูงสุด คุณอาจจะไม่ได้สูงสุดตามนี้ก็ได้นะครับ แต่ไอ้ที่แน่นอนคือ คุณไม่สามารถกู้ได้สูงเกินนี้แน่นอน แต่สำหรับบางคนที่มีภาระหนี้ เกิน 40% ของรายได้เช่น คุณมีรายได้ 10,000 บาท มีภาระหนี้ ผ่อนอะไรสักอย่างเกิน 4,000 บาท อันนี้คุณจะกู้ไม่ได้แล้วครับ เพราะมีภาระหนี้เดิมสูงถึง 40% ของรายได้แล้วครับ จะกู้ได้ ต้องลดภาระหนี้ลงครับ ครับข้อแรกอันนี้พอเข้าใจกันนะครับ สำหรับข้อแรกนี้ ถ้าใครคุณสมบัติไม่ถึง ไม่ต้องอ่านข้ออื่นเลยครับ จบข่าว

2. ใครที่ในรอบ 6 เดือน ก่อนที่จะยื่นกู้ซื้อบ้าน คุณเคยไปยื่น สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรกดเงินสด หรือ ที่เรียกว่าสินเชื่อเพอซัลนอลโลน ( Personal Loan ) เพราะเวลาคุณไปยื่นสินเชื่อประเภทนี้ ธนาคารที่คุณไปยื่นขอสินเชื่อ เขาก็จะไปขอดูประวัติการผ่อนชำระ หรือประวัติเครดิตของคุณกับ เครดิตบูโร ใช่ไหมครับ ต่อมา คุณจะยื่นกู้ซื้อบ้าน ธนาคารที่คุณไปยื่นกู้ซื้อบ้าน เขาก็เข้าไปเช็คประวัติบูโรคุณเหมือนกัน เขาก็จะเห็นว่า มีธนาคารอะไร เข้ามาขอดูประวัติคุณไปบ้าง เมื่อไร นั่นละครับ หากมีการขอดูประวัติจากธนาคารอื่นๆ มากๆ หรือ คุณเพิ่งเปิดบัตรใหม่ ก่อน มายื่นกู้บ้าน ภายใน 6 เดือน เกิน สามบัตร ธนาคารปฏิเสธทันที เพราะ เขาไม่รู้ว่า คุณไม่มีเงินดาวน์บ้าน หรือ ยังไง ถึงต้องไปกู้เงินจำพวกนี้ไว้ก่อนรึเปล่า หรือ สอง ธนาคารมองว่า คุณไม่มีวินัย ในด้านการเงินเพียงพอ ไม่มีการเตรียมตัวที่ดี ก่อนยื่นกู้ซื้อบ้านครับ ฉะนั้น ถ้าคิดจะกู้ซื้อบ้าน ต้องเตรียมตัว อย่างน้อย 6 เดือนครับ อย่าไปกู้อะไรก่อนกู้ซื้อบ้านครับ กู้บ้านได้แล้ว ค่อยว่ากัน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน น่าจะดีกว่านะครับ

3. ต่อเนื่องจากข้อ 2. ก็คือเรื่องหนี้ครับ ถ้าคุณไม่มีเงินเก็บ และก็มีแต่หนี้ ถ้าคุณมีครบทั้งสองประการ ก็ไม่ต้องไปยื่นกู้ที่ไหนครับ กู้ไม่ผ่านแน่นอน อย่างน้อยถ้าคุณไม่มีเงินเก็บ แต่คุณมีการลดภาระหนี้ลงเรื่อยๆ บัตรเครดิตถ้าใช้ก็เคลียร์ยอดให้หมดเลยครับถ้าทำได้ ค่อยๆ ลดหนี้ลงครับ และห้ามก่อหนี้ใหม่ครับ ลดหนี้ลงและลองคำนวณตามข้อแรก ที่ผมกล่าวนะครับ ว่า รายได้คุณสามารถกู้เงินซื้อบ้านได้ตามวงเงินที่ต้องการหรือยังแค่นี้เองง่ายๆ ครับ

4. เงินออม ข้อนี้ ถ้าคุณไม่มี แต่คุณก็ไม่มีหนี้อีกเช่นกัน อันนี้ยังพอไปได้ แต่ยิ่งถ้าคุณมีเงินออมนะ ชีวิตคุณจะดีขึ้นและง่ายขึ้นนะครับ ถึงแม้คุณจะกู้อะไรไม่ผ่าน แต่ผมว่าถ้าคุณมีเงินออม อย่างน้อย เท่ากับว่า คุณได้สร้างนิสัยการออมเงิน จนติดเป็นนิสัยแล้วละครับ ยินดีด้วยครับ และถามว่าถ้าจะกู้ซื้อบ้าน จะต้องมีเงินออมเท่าไร เอาแบบชัวร์ๆ เลยนะครับ 10% ของราคาบ้านที่คุณต้องการซื้อนะครับ แค่นี้เองครับ

หลักการง่ายๆ ในการที่จะกู้ซื้อบ้านให้ผ่าน ธนาคารอนุมัติแน่นอนครับ หลักการทั้งสี่ข้อของผม ใครมีครบทุกข้อ กู้เองผ่านฉลุย หรือใครที่ติดขัดปัญหาอะไร ติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ครับ Line ID: @antonio หรือ antonioattorney@gmail.com

ทิ้งคำถามไว้ครับ แล้วผมจะตอบให้ทุกรายครับ อาจจะช้าหน่อยครับ คำถามเข้ามาเยอะมากครับ วันนี้สวัสดีครับ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สรุปสถานะการณ์ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ( Housing Loan ) ประจำปี 2556


จากที่ผมคลุกคลี ก็คือประกอบอาชีพ เป็นโบรกเกอร์ ซื้อ ขาย บ้านมือสอง และรับดำเนินการหาสินเชื่อให้กับผู้ประสงค์จะกู้ ทั้งสินชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย และ สินเชื่อธุรกิจ

อยากจะสรุป สถานการณ์ในรอบปีมาให้ทุกท่านทราบผ่านจากบล็อคของผมนี่ละ เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี ภาคธนาคาร โดยเฉพาะด้านสินเชื่อมีการแข่งขันกันสูงมากครับ ทั้งสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อธุรกิจ ช่วงต้นปี ผมจบเคสไปไม่น้อย แต่ปีนี้ มีเคสขอสินเชื่อธุรกิจมากกว่าทุกๆ ปี แต่ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยรับเท่าไรครับ สินเชื่อธุรกิจนี่ เหตุผล คือ คนเพ้อฝัน และฟุ้งซ่านเยอะครับ คุยด้วยซักพัก ขอตัวกลับ เสียเวลา บางทีคนเริ่มต้นทำธุรกิจเนี่ยมันต้องค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆ ก้าวครับ นี่ คุณเป็นใครในวงการนั้นๆ  อยู่ดีๆ มาถึง จะขอกู้สิบล้าน ร้อยล้าน  ยากครับ  สรุปก็คือ ช่วงครึ่งปีแรกของปี 56 เป็นช่วงเวลาที่ดีในการกู้เงินมากครับ

พอมาช่วงครึ่งปีหลัง แบงก์ปรับนโยบายเข้มข้นขึ้นครับ แต่สำหรับผมก็ยังพอไปได้ครับ เพราะอะไรเหรอ พูดแล้วไม่อยากจะคุย ผม อายุยังไม่เยอะหรอกครับ แต่ผมทำสินเชื่อมาตั้งแต่เรียนจบใหม่ ดูแลลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ๆ เป็นลูกกระจ๊อกเค้า ต่อมาดูแลพอร์ทลูกค้าเองเลย  หลังวิกฤตปี 40 ผมออกมาอยู่บริษัท ทำธุรกิจ F.A. ( Financial Advisor ) รับเป็นตัวแทนในการเจรจาหนี้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ และหาวงเงินสินเชื่อใหม่เพื่อมาอัดฉีดเข้าไปในธุรกิจ ลูกค้า รายใหญ่ๆ ทั้งนั้น สมัยก่อน หนี้บานเลย ทุกวันนี้ แข็งแกร่งมากกว่าเดิมทั้งนั้น เพราะมีประสบการณ์มากขึ้น โอเคโม้ประวัติตัวเองมาซะยืดยาว แค่จะบอกว่า สินเชื่อกู้ซื้อบ้าน มันหมูๆ ไงครับ ในการทำสินเชื่อบ้านนะครับ ไม่ใช่สินเชื่อธุรกิจนะ คือ สินเชื่อบ้านเนี่ยถ้ามันไม่ได้ ยังไงมันก็ไม่ได้ มันปรับแต่งอะไรไม่ค่อยได้มากหรอกครับ  จริงๆเชื่อผม ลูกค้าชอบถามว่าทำยังไง ผมบอกไม่ทำไงหรอกก็คนเซ็นต์อนุมัติเค้าเซ็นต์ให้ก็เท่านั้น แหมอยู่ในวงการมาตั้งนาน เพื่อนฝูง หัวหน้าเก่า ตอนนี้เป็นใหญ่เป็นโตกันหมดแล้ว กระจัดกระจายกันไปเกือบทุกแบงก์ ยกเว้น ธนาคารเพื่อการเกษตรเท่านั้น 

ต่อครับมาช่วงก่อนสิ้นปี ธนาคารยิ่งเข้มในการปล่อยสินเชื่อเข้าไปอีก งานนี้ยากครับ แต่ผมก็เอาตัวรอดมาได้ หลายรายเลย ถือว่าเป็นปีที่ประสบความสำเร็จอีกปี บางท่านสังเกตุไหมครับ ช่วงที่ผ่านมาไม่กี่เดือน ท่านที่มีหนี้บัตร เครดิต สินเชื่อผ่อนของ จะมี จดหมายว่าจะอนุมัติวงเงินเพิ่ม โน่นนี่นั่น มาให้ แต่จะเขียนว่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาจากธนาคาร อีกครั้ง ผมจะบอกให้เขาส่งมาให้เราเซ็นต์ตอบรับกลับไป อันนั้นเป็นเอกสารให้เซ็นต์อนุญาติให้เช็คเครดิตบูโร ธนาคารเค้าจะได้เข้าไปเช็คเครดิตบูโรของท่านได้ไง ว่านอกจากกับเค้าแล้วท่าน ประวัติเป็นยังไง รู้เขารู้เรา ธนาคารนี่มันร้ายกว่าที่เราคิดเยอะนะครับ ไม่ได้จะให้วงเงินบ้าบอไรหรอกครับ

สุดท้ายผมขอแนะนำ สำหรับท่านที่อยากจะมีบ้าน ซื้อบ้าน คอนโด ทาวน์เฮาส์ นับจากนี้ไป ธนาคารจะอนุมัติยากขึ้น การเตรียมตัวคือ ท่านต้องมีเงินออม นอนเป็นเงินก้นถุงเลย คือนอนนิ่งเป็นก้อนไว้ในบัญชี เลยครับ ถามว่าเท่าไรดี ให้สูตรยังงี้ครับ ในการกู้เงิน 1.0 ล้านบาท ต้องผ่อนประมาณ เดือนละ 7,000-7,500 บาท ท่านก็ต้องมีเงินไว้ไม่น้อยกว่า 7,000 x 6 เท่ากับ 42,000 บาท ท่านควรจะมีเงินออมก้อนนี้ มาแล้วอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แบบนี้พอไปไหว  แต่ถ้าใครอยากให้มืออาชีพดำเนินการให้ละก็ ผมขอเสนอตัวนะครับ ยินดีรับใช้ครับ ติดต่อผมได้ครับ ที่ antonioattorney@gmail.com หรือ LineID : @antonio  ยินดีตอบทุกข้อสงสัย อย่าปล่อยให้ปัญหาอยากมีบ้านต้องสะดุด เพราะ กู้เงิน ไม่ผ่าน ติดเครดิตบูโร ลองดูครับผมอาจจะช่วยได้

โพสต์แนะนำ

ที่ปรึกษา เพื่อแนะนำ เทคนิค วิธีการ การ กู้เงิน ขอสินเชื่อ แก้หนี้ ปรับโครงสร้างหนี้

สำหรับคนที่มีปัญหา กู้เงินซื้อบ้านไม่ผ่าน ขอสินเชื่อกับ ธนาคารไม่ผ่าน แบงก์ ไม่อนุมัติ หรือ ท่านที่มีปัญหาหนี้เสีย ภาระหนี้สินมากและยัง...

บทความที่น่าสนใจ